ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จากสถานะการณ์ในทะเลแดง และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย

ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น จากสถานะการณ์ในทะเลแดง และแนวโน้มของอัตราดอกเบี้ย

ราคาน้ำมันฟื้นตัวขึ้นในการค้าเอเชียเมื่อวันพุธ ท่ามกลางความกังวลเรื่องการโจมตีการขนส่งในทะเลแดง และความคาดหวังที่เพิ่มขึ้นว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ จะใช้เวลานานกว่าที่คิด

ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้าเบรนท์เพิ่มขึ้น 30 เซนต์หรือ 0.36% สู่ 82.64 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลภายใน 03.24 (GMT) ในขณะที่สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ West Texas Intermediate ของสหรัฐ (WTI) เพิ่มขึ้น 26 เซนต์หรือ 0.34% อยู่ที่ 77.3 ดอลลาร์

สัญญาเบรนต์และ WTI ลดลง 1.5% และ 1.4% ตามลำดับจากระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ในวันอังคาร เนื่องจากค่าพรีเมียมสำหรับสัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบสหรัฐล่วงหน้าสู่สัญญาเดือนที่สองเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่าเป็น 1.71 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ซึ่งเป็นระดับที่กว้างที่สุดในรอบประมาณสี่เดือน

“ราคาน้ำมันดิบล่วงหน้ามีขอบเขตค่อนข้างมาก และมีเบี้ยประกันความเสี่ยงอย่างน้อย 6-7 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลที่ระดับปัจจุบัน” วันทนา ฮารี ผู้ก่อตั้งบริษัทวิเคราะห์ตลาดน้ำมัน Vanda Insights กล่าว

เธอกล่าวว่าราคาอาจยังคงอยู่ในขอบเขตที่กำหนดจนกว่าจะถึงจุดเปลี่ยนครั้งต่อไปในวิกฤตฉนวนกาซา ไม่ว่าจะเป็นการลดระดับความรุนแรงผ่านการหยุดยิง หรือการที่เลวร้ายลงจากการโจมตีของอิสราเอลในเมืองราฟาห์

การโจมตีเพื่อสนับสนุนชาวปาเลสไตน์ในทะเลแดงและช่องแคบบับ อัล-มันดับ โดยกลุ่มกบฎฮูซีซึ่งสนับสนุนอิหร่านในเยเมน ยังคงกระตุ้นให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าไหลผ่านเส้นทางน้ำที่สำคัญแห่งนี้ การโจมตีด้วยโดรนและขีปนาวุธได้โจมตีเรืออย่างน้อยสี่ลำนับตั้งแต่วันศุกร์

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา วอชิงตันได้คัดค้านร่างมติของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเกี่ยวกับสงครามอิสราเอล-ฮามาสอีกครั้ง ซึ่งขัดขวางข้อเรียกร้องให้หยุดยิงเพื่อมนุษยธรรมทันที แทนที่จะเป็นเช่นนั้น สหรัฐฯ กลับเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงลงมติยุติการสู้รบและการปล่อยตัวประกันชาวอิสราเอลโดยกลุ่มฮามาส

ในขณะเดียวกัน รัสเซียซึ่งให้คำมั่นว่าจะลดกำลังการผลิต 500,000 บาร์เรลต่อวัน (bpd) ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการลดปริมาณร่วมกับองค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร (OPEC+) ระบุเมื่อวันอังคารว่าตนตั้งใจที่จะบรรลุโควต้า OPEC+ ในเดือนกุมภาพันธ์ แม้ว่าการกลั่นน้ำมันจะลดลงก็ตาม

รัฐมนตรีกระทรวงพลังงานของรัสเซียระบุเมื่อวันอังคารว่าปริมาณการกลั่นในรัสเซียลดลง 7% หลังจากโรงงานได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยโดรนของยูเครน

ความกังวลว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางสหรัฐอาจใช้เวลานานกว่าที่คิดไว้ ซึ่งส่งผลกระทบต่อแนวโน้มอุปสงค์น้ำมัน ข้อมูลเงินเฟ้อของสหรัฐฯ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วได้ผลักดันการคาดการณ์ว่าวงจรการผ่อนคลายของเฟดจะเริ่มต้นขึ้นเร็วๆ นี้ โดยนักเศรษฐศาสตร์ที่สำรวจโดย Reuters คาดการณ์ว่าการปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมิถุนายน

ผลสำรวจเบื้องต้นของรอยเตอร์เปิดเผยเมื่อวันอังคารว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว ในขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นและน้ำมันเบนซินลดลง

นักวิเคราะห์ถึงขนาดโดยรอยเตอร์ประเมินโดยเฉลี่ยว่าสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นประมาณ 4.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์

แหล่งที่มาภาพข่าว : https://www.investing.com/news/commodities-news/oil-rises-markets-weigh-red-sea-attacks-us-rate-cuts-3309101