Published on July 19, 2024
ข้อมูลเผยเมื่อวันศุกร์ ราคาผู้บริโภคหลักของญี่ปุ่นเพิ่มขึ้น 2.6% ในเดือนมิถุนายน เร่งขึ้นเป็นเดือนที่ 2 ติดต่อกัน และทำให้ตลาดยังคงคาดการณ์ว่าธนาคารกลางจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า
ข้อมูลดังกล่าวจะเป็นหนึ่งในปัจจัยที่ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่น (BOJ) จะพิจารณากลั่นกรองในการประชุมนโยบายในวันที่ 30-31 กรกฎาคม ซึ่งคณะกรรมการจะเผยแพร่การคาดการณ์รายไตรมาสฉบับใหม่และอภิปรายว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยจากระดับใกล้ศูนย์ในปัจจุบันหรือไม่
การเพิ่มขึ้นของดัชนีราคาผู้บริโภคหลัก (CPI) ซึ่งตัดผลกระทบจากราคาอาหารสดที่ผันผวนออกไปนั้น ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของการคาดการณ์ของตลาดเล็กน้อยที่จะเพิ่มขึ้น 2.7% และตามมาด้วยการเพิ่มขึ้น 2.5% ของเดือนก่อน
การลดเงินอุดหนุนจากรัฐบาลที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อควบคุมค่าสาธารณูปโภคได้ผลักดันให้ต้นทุนพลังงานเพิ่มขึ้น 7.7% เมื่อเทียบเป็นรายปีในเดือนมิถุนายน เพิ่มขึ้นจากที่เพิ่มขึ้น 7.2% ในเดือนพฤษภาคม ซึ่งช่วยยกระดับอัตราเงินเฟ้อโดยรวม
ดัชนีแยกต่างหากที่ไม่รวมผลกระทบของราคาอาหารสดและเชื้อเพลิง ซึ่ง BOJ จับตาอย่างใกล้ชิดในฐานะตัวบ่งชี้แนวโน้มราคาในวงกว้าง เพิ่มขึ้น 2.2% ในเดือนมิถุนายน หลังจากอ่านค่าได้ 2.1% ในเดือนพฤษภาคม
ข้อมูลระบุว่าอัตราเงินเฟ้อภาคบริการเพิ่มขึ้นเป็น 1.7% ในเดือนมิถุนายนจาก 1.6% ในเดือนพฤษภาคม เป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าบริษัทต่างๆ ยังคงส่งต่อต้นทุนแรงงานที่เพิ่มขึ้นผ่านการขึ้นราคา
“แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นจะยังคงเห็น CPI ของโตเกียวในเดือนกรกฎาคมก่อนการประชุมในปลายเดือนนี้ ตัวเลขทั่วประเทศในเดือนมิถุนายนสนับสนุนการคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมครั้งนั้น” Marcel Thieliant หัวหน้าภาคพื้นเอเชียแปซิฟิกของ Capital Economics กล่าว
“เมื่อมองไปข้างหน้า เราคาดว่าอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานจะอยู่ที่ประมาณ 2% จนถึงต้นปี 2568 ซึ่งเราคิดว่าจะทำให้ธนาคารแห่งประเทศญี่ปุ่นขึ้นอัตราดอกเบี้ยทั้งในเดือนนี้และในเดือนตุลาคม”
เศรษฐกิจญี่ปุ่นหดตัวในไตรมาสแรก เนื่องจากบริษัทและภาคครัวเรือนลดการใช้จ่าย ทำให้เกิดข้อสงสัยต่อมุมมองของธนาคารกลางในการฟื้นตัวในระดับปานกลาง
ในขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าการเติบโตจะดีดตัวขึ้นในไตรมาสเดือนเมษายน-มิถุนายน แต่ค่าเงินเยนที่อ่อนค่ากำลังส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของครัวเรือนโดยการผลักดันต้นทุนเชื้อเพลิงและอาหารนำเข้าที่สูงขึ้น
BOJ ออกจากอัตราดอกเบี้ยติดลบและการควบคุมอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในเดือนมีนาคม ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญจากโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบหัวรุนแรงที่มีมานานนับทศวรรษ
เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อเกินเป้าหมาย 2% เป็นเวลาสองปี ธนาคารกลางยังได้ลดคำแนะนำว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นเป็นระดับที่ไม่ทำให้เศรษฐกิจเย็นลงหรือร้อนเกินไป ซึ่งนักวิเคราะห์มองว่าอยู่ระหว่าง 1% ถึง 2%
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนคาดว่า BOJ จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 0.25% ในปีนี้ แม้ว่าพวกเขาจะถกเถียงกันว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในเดือนกรกฎาคมหรือปลายปีนี้ก็ตาม
แหล่งที่มาภาพข่าว : https://www.investing.com/news/economic-indicators/japan-june-core-cpi-rises-26-yryr-3526257