Trading Central เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือเข้าถึงการวิเคราะห์ที่ช่วยให้การเทรดได้ด้วยความมั่นใจ ทำให้การลงทุนบรรลุเป้าหมาย ของเทรดเดอร์ที่มองหาการสนับสนุนที่เหมาะสม แม้กระทั่งหา trade setup ได้ง่าย เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเทรดได้มากขึ้น ยิ่งมีรายได้เยอะขึ้นจากการลงทุนในแต่ละครั้ง ทำความเข้าใจ Trading Central พร้อมหลักการทำงานเป็นอย่างไร เชื่อว่าเทรดเดอร์หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่า Trading Central แท้ที่จริงแล้วมีประสิทธิภาพการทำงานเป็นอย่างไร เปรียบเสมือนเป็นปฏิทินเศรษฐกิจเชิงลึก, Crowd Insight, มุมมองทางเทคนิคและยังรายงานข่าวแบบรายวัน ทั้งนี้เป็นการติดตามสถานการณ์และข่าวล่าสุด สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษเหล่านี้ มีส่วนสำคัญในการเทรดเป็นอย่างมาก จากการวิเคราะห์ตามสภาวะจริงโดยอ้างถึงเหตุการณ์ตามความเคลื่อนไหวของตลาด หลักการทำงานสามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นได้ ทำให้การเทรดแต่ละครั้งของนักลงทุนสามารถสำรวจและวิเคราะห์ได้อย่างอิสระ ใช้ประโยชน์จากข่าวออนไลน์และรับแนวคิดการลงทุนที่เชื่อถือได้ รวมถึงการตรวจสอบตลาดการเงินได้อย่างต่อเนื่อง และนำข้อมูลเชิงลึกนำไปใช้ได้ ข้อกำหนดการทำงานที่ควรทราบก่อนใช้งาน เครื่องมือประเภทนี้จะทำงานได้จริง เมื่อใช้บัญชีซื้อขายของจริงเท่า ควรมีเงินอย่างน้อยเป็นจำนวนขั้นต่ำตามที่โบรกเกอร์กำหนดเช่น มีเงินอย่างน้อย 200 USD หรือเทียบเท่า วิธีการอ่านรีพอร์ตที่แสดงให้เห็นในรูปภาพแผนภูมิ มีดังนี้ เส้นสีเขียว-เส้นแนวต้าน, เส้นสีแดง-เส้นแนวรับ, เส้นสีน้ำเงิน- scenario หรือสถานการณ์ทางเลือก เหตุผลที่ควรเลือกใช้งาน Trading Central ยอมรับว่าการเทรดฟอเร็กซ์ให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด หลายคนเลือกใช้งาน […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | March 27, 2024
อินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์ได้รับความนิยม โดยเฉพาะ Pivot points คือเครื่องมือที่มีความโดดเด่นไม่น้อย ประสิทธิภาพในการใช้งานสามารถระบุแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงความเคลื่อนไหวของราคาและบ่งบอกสภาวะของตลาดได้ว่าซื้อหรือขายมากเกินไป สามารถนำมาใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ได้ ทำความรู้จักกับ Pivot points เชื่อว่าเทรดเดอร์หลายคนคงจะรู้จักกันดีกับ Pivot points ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยระบุระดับราคาที่เป็นแนวรับ แนวต้าน ให้แบบอัตโนมัติ จึงเป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์นิยมนำมาใช้งานกันมาก เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือตลาดที่มีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเหมาะกับทุกสภาวะตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นหรือแนวโน้มขาลง ที่สำคัญเหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ เพราะหลักการใช้งานเข้าใจง่าย สิ่งสำคัญที่ควรทราบเมื่อเข้าใช้งานในระบบ ต้องเข้าใจว่าเวลาเปิดทำการของตลาดฟอเร็กซ์ 24 ชั่วโมง เวลาทำการของตลาดนั้นถูกแบ่งเป็น 4 เซสชั่น คือ ญี่ปุ่น , ออสเตรเลีย , สหรัฐอเมริกา , สหราชอาณาจักร นักลงทุนสามารถค้นหาช่วงเวลาที่ต้องการซื้อขาย เวลาทำการของตลาดมีสี่เซสชันทำให้การเทรดตามกรอบเป็นโอกาสดีในการลงทุน เช่น ตลาดสหรัฐปิดและตลาดเอเชียเปิด ราคาอาจยังไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้การระบุแนวรับ แนวต้านได้ง่ายขึ้น เทคนิคการใช้งาน Pivot points เชื่อว่าเทรดเดอร์ทุกคนต่างมีกลยุทธ์ในการเทรดตามสไตล์ของตัวเอง ความพิเศษของ […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | March 26, 2024
Bollinger Bands คือ Indicator พื้นฐานที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้มากสุด ด้วยจุดเด่นที่นำมาใช้งานและประยุกต์เปลี่ยนไปสถานการณ์ สามารถวิเคราะห์สภาวะตลาดการเงินอาจมีความผันผวนเกิดขึ้นก็ตาม และบ่งบอกถึงพฤติกรรมของราคาที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย ทำความรู้จักกับ Bollinger Bands นักวิเคราะห์ทางเทคนิค John Bollinger ที่พัฒนาเครื่องมือการวิเคราะห์อย่าง Bollinger Bands เพื่อนำมาใช้เป็นตัวบ่งชี้ความผันผวน การออกแบบมาเพื่อแสดงให้เทรดเดอร์เห็นหากมีการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ตัวบ่งชี้ความผันผวนประกอบด้วยแถบสองแถบที่ลากอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยและสามารถบ่งบอกถึงสภาวะตลาดและพฤติกรรมของราคาได้ ดังนี้ ราคาสามารถไปต่อได้อีกหรือไม่ การกลับตัวของราคา ลักษณะการพักตัวของราคา ความน่าจะเป็นในการทะลุของราคา ความผันผวนของราคาอยู่ในระดับใด Bollinger Band ประกอบด้วยแถบเส้นอะไรบ้าง การเทรดฟอเร็กซ์ให้ง่ายขึ้นเมื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Bollinger Band ซึ่งประกอบไปด้วยแถบเส้นเหล่านี้ Upper Band โดยทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ค่าเบี่ยงมาตรฐานคือการวัดความผันผวนของราคา เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้กรอบเวลามองย้อนกลับ 20 ช่วง Middle Band (SMA) สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งแนวรับและแนวต้าน เทรดเดอร์สามารถปรับแต่งกรอบเวลาให้เหมาะสมกับความต้องการหรือให้เหมาะสมกับสินทรัพย์ที่ตนเองเทรดก็ได้ Lower Band ทำหน้าที่เป็นแนวรับ โดยส่วนมากจะกำหนดระยะเวลา 20 วัน หากความผันผวนเพิ่มขึ้น กรอบแบรนด์ก็จะยิ่งกว้างมากขึ้น หากความผันผวนลดลง […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | March 19, 2024
การเทรดฟอเร็กซ์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องใช้เทคนิคเข้าช่วยให้การเทรดเป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ โดยเฉพาะการใช้งาน Autochartist คือเครื่องมือทางเทคนิคประสิทธิภาพสูงในการเทรดแบบ Realtime และเหมาะกับนักลงทุนทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น ทำความรู้จัก Autochartist คืออะไร และหลักการทำงานเป็นอย่างไร Autochartist เปรียบเป็นเครื่องมือช่วยด้านการวิเคราะห์ตลาดได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการระบุโอกาสทางการค้าที่มีความเป็นไปได้ มีหลายฟังก์ชั่นรวมถึงการแจ้งเตือนระบบอัตโนมัติ มีความเชื่อมโยงกับโอกาสในการซื้อขาย รวมถึงการรายงานการวิเคราะห์ตลาดและสภาพตลาด จึงเป็นฟังก์ชั่นที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและนำมาใช้งาน โดยเฉพาะ Trader ที่เริ่มต้นเข้าสู่ตลาดหรือเริ่มการเทรดฟอเร็กซ์เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังช่วยในด้านการวิเคราะห์ความผันผวน การคาดการณ์ของทิศทางในตลาดมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ด้วยประสิทธิภาพการทำงานช่วยให้การเทรดของนักลงทุนมีความเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นและมีให้บริการบน MT4 และ MT5 หลักการทำงานของเครื่องมือสแกนตลาดทำหน้าที่ตลอด 24/5 ทำหน้าที่แบบเรียลไทม์เพื่อการเทรดคุณภาพสูงและสดใหม่ สำหรับรูปแบบการเคลื่อนไหวที่จับได้เช่น แบบสามเหลี่ยม , แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า , แบบเส้นขนาน , แบบหน้าจั่ว , แบบหัวและไหล่ รูปแบบรายงานส่งสามครั้ง/วัน ตลาดเอเชียรายงานตอน 12.00 น. (EET) , ตลาดยุโรปส่งตอน 8.00 น. (EET) , ตลาดอเมริกาส่งตอน 13.00 น. (EET) […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | March 18, 2024
เทคนิคการเทรดฟอเร็กซ์ให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดและมีโอกาสชนะ สิ่งจำเป็นต่อการเทรดในทุกครั้งคือการค้นหา Trade setup ซึ่งเป็นวิธีที่เทรดเดอร์มืออาชีพนิยมใช้กันมาก โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้วิธีการอ่านกราฟเป็นทุกรูปแบบ เพียงแค่จับจังหวะระบบเทรดให้ได้ ทำความเข้าใจกับ Trade setup ก่อนลงทุน ก่อนจะเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์อย่างเต็มตัว ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าเทรดหรือที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเรียกว่า Trade setup ซึ่งเป็นจุดที่เทรดเดอร์ทุกคนเข้ามาซื้อหรือขาย ทั้งนี้แต่ละหน้าเทรดมีความแตกต่างกันตามรูปแบบกราฟที่ราคาเคลื่อนที่ไปตามตลาดซึ่งแต่ละหน้าเทรดนั้นประกอบไปด้วยจุดเข้าซื้อ , จุดขาย , รูปแบบกราฟ, การวางเงินในแต่ละหน้าเทรด และ ความเข้าใจของเทรดเดอร์ นอกจากนี้ Trader ถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบคือ Day Trader , Swing Trader , Trend follower ซึ่งมีความหมายต่างกันออกไป แบบ Day Trader จะใช้ในรูปแบบเบรกเอาท์ในกราฟระยะสั้น , Swing Trader เพื่อมองหาจุดกลับต่าง ๆ และ Swing trader เพื่อหาจุดต่ำสุดไปขายจุดสูงสุดหรือการมองหาจุดกลับต่าง ๆ ส่วน Trend […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | March 14, 2024
Indicator ที่เทรดเดอร์หลายคนมักจะมองข้าม Momentum ในกลุ่ม Oscillator ที่ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุด สามารถระบุความแข็งแรงของสัญญาณเคลื่อนไหวได้เร็ว ทำให้เทรดเดอร์มองเห็นช่องว่างของราคาที่ผันผวนได้มีส่วนสำคัญช่วยเก็งกำไรให้ได้ผลดีสุด ปัจจัยที่ผลต่อ Momentum Oscillator ปัจจัยที่มีผลต่อการเทรดโมเมนตัม สามารถแบ่งประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท ดังนี้ Volatility คือความผันผวนที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นปัจจัยอันดับแรกที่ส่งผลการเทรด จากการแกว่งตัวของราคาที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เห็นช่องว่างจากจุดนี้และเป็นโอกาสเข้ามาทำกำไรในรูปแบบระยะสั้นได้ทันที Volume Forex ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอันดับสอง ปริมาณการซื้อขายในตลาดส่วนใหญ่เลือกซื้อขายมากกว่า หากสังเกตเห็นว่ามีฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีความถี่ของปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างเร็ว คือการสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของการเกิด Trend แบบต่อเนื่องได้ Timeframe ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมองข้ามนั่นคือกรอบเวลา การเทรดที่อาศัยการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้น ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของราคามีผลเมื่อปริมาณการซื้อขายมากน้อยแค่ไหนโดยส่วนมากนักลงทุนมักจะชอบทำกำไรใน TF แบบสั้นเพื่อง่ายต่อการเก็งกำไรในอนาคตและไม่ต้องรอนาน ประเภทของ Momentum Oscillator ที่ควรรู้ ทำความรู้จักประเภทของโมเมนตัม สามารถแบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้ Relative Momentum ประเภทนี้ถือว่ามีส่วนสำคัญช่วยให้เทรดเดอร์ทุกท่านสามารถเปรียบเทียบพฤติกรรมของคู่สกุลที่เลือกเทรดฟอเร็กซ์ สามารถบอกได้ว่าสินทรัพย์ในขณะนั้นสภาวะอย่างไร เช่นกำลังอ่อนแอคือต้องขาย ในทางกลับกันราคาสินทรัพย์แข็งแกร่งต่อเนื่องคือต้องซื้อ Absolute momentum ประเภทนี้ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปรียบเทียบพฤติกรรมของคู่เงินที่ในปัจจุบัน […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | March 8, 2024
การทดสอบย้อนกลยุทธการเทรดเพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์นั้น ๆ ใช้งานได้ดีหรือไม่ ตัวประเมินความผันแปรที่อ้างอิงข้อมูลเก่ามาคำนวณ การ Backtesting จึงเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ของกลยุทธในการซื้อขาย หากการทดสอบผ่านไปด้วยดีนั่นคือผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับจริง เป้าหมายและการทำงานของ Backtesting เป็นอย่างไร เป้าหมายการทดสอบกลยุทธก่อนนำไปใช้งานในตลาดฟอเร็กซ์จริง ๆ จุดประสงค์ที่หลายคนเลือกทำ Backtesting เสียก่อนเพราะต้องการเลี่ยงความเสี่ยงหรือการสูญเสีย เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ที่นำมาทดสอบนั้นใช้งานได้จริงเห็นผลทำกำไรได้จริงเมื่อนำมาใช้งานในตลาดการลงทุน หากผลการทดสอบไม่ดีหรือไม่เป็นไปตามที่คิด นักลงทุนสามารถเลี่ยงไม่ใช้งานได้ เป้าหมายการเทรดแบบหวังผลและลดความสูญเสียหรือการขาดทุน พื้นฐานการทดสอบกลยุทธ์เพื่อคาดหวังผลลัพธ์ที่ส่งผลดีในอนาคต ทั้งนี้กลยุทธ์ที่สามารถทำงานได้ดีในตลาดบางครั้งอาจล้มเหลวในอีกสภาพแวดล้อมหนึ่งก็ได้ เทรดเดอร์ควรตัดสินใจทดสอบเพื่อความมั่นใจในการเทรดจริง ๆ อย่างไรก็ตามไม่ควรลืมว่าการทดลองก็ควรจะรวมค่าธรรมเนียมซื้อขาย การถอนเงิน ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ การทดสอบเสมือนเป็นการเทรดจริงแม้ว่าจะเป็นเพียงการเทสแต่ก็ไม่ได้รับประกันถึงความแม่นยำ 100% ต้องไม่ลืมว่าข้อมูลที่นำมาใช้ในการทดสอบแต่ละครั้งคือข้อมูลจากอดีต ผลดำเนินงานในตลาดจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพราะในตลาดฟอเร็กซ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้มีความคลาดเลื่อนได้ตลอด แต่ผลลัพธ์ถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นซ้ำรอยตามกลยุทธ์ที่เราทดสอบก็เป็นได้ รูปแบบกลยุทธ์ Backtesting มีกี่แบบ รูปแบบกลยุทธ์แบ่งออกได้ 2 วิธี มีดังนี้ กลยุทธ์การ Backtest อัตโนมัติ สำหรับการเทรดในวิธีนี้จะเป็นแบบออโต้ ซึ่งวิธีนี้อาศัยการเขียนโค้กเพื่อใช้ในการทดสอบการเทรดแบบออโต้ วิธีนี้อาจจะซับซ้อนเกินกว่าที่นักลงทุนหน้าใหม่จะเข้าใจได้ เชื่อว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่อาจไม่ชอบวิธีนี้เพราะต้องทราบวิธีเขียนโค้ด กลยุทธ์การ Backtest ด้วยตัวเอง ถือว่าวิธีสามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้ทุกระดับชั้น แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะการเขียนโค้ด […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | March 7, 2024
เทรดฟอเร็กซ์ กลายเป็นการลงทุนที่ได้รับความสนใจสูงสุด เพื่อประสิทธิภาพในการเทรดจำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือทางเทคนิคเข้ามาช่วยคาดการณ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ หากคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Price Pattern ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำนายทิศทางราคาที่เกิดขึ้นในอนาคตได้ คุณรู้ไหมว่าอะไรคือ Price Pattern ? ก่อนจะตัดสินใจเทรดอย่างมืออาชีพ ควรศึกษารูปแบบ Price Pattern ให้เข้าใจเสียก่อนเพราะเป็นรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาสินค้าในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ทำให้การคาดการณ์รูปแบบราคาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งเป็นสมมุติฐานที่เชื่อว่ารูปแบบราคาในอดีตจะเกิดขึ้นซ้ำหรือพฤติกรรมของราคามักจะสะท้อนการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขายในช่วงเวลาหนึ่ง จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการคาดการณ์แนวโน้มราคาที่กำลังจะเกิดขึ้น Price Pattern แบ่งได้กี่ประเภท เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น การแบ่งประเภทของ Price Pattern สามารถจัดแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ รูปแบบกลับตัว ประเภทนี้เป็นสัญญาณรูปแบบราคาที่บ่งบอกว่าเทรนนี้กำลังเกิดขึ้นและกำลังจะสิ้นสุดลง หลังจากนั้นแล้วจะเปลี่ยนไปยังทิศทางตรงข้ามคือการกลับตัวสวนขึ้นไป เหตุการณ์ลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงท้ายของเทรน รูปแบบราคาในกลุ่มนี้มักจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างแรงซื้อและแรงขายในชั่วขณะหนึ่ง ตัวอย่างเช่น กลุ่มตัวที่เกิดขึ้นเป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง ความต่อเนื่องของทิศทางราคา ประเภทนี้เป็นรูปแบบสัญญาณรูปแบบของราคาที่แสดงให้เห็นการพักตัวเพื่อลดความร้อนแรงของเทรนหรือการชะลอการขาย ทิศทางของราคาที่ยังคงดำเนินไปทางเดิมอย่างต่อเนื่อง กลุ่มราคาแบบนี้มักจะเป็นราคาที่ดำเนินต่อไปอย่างแข็งแรง เทรดเดอร์มักจะอาศัยช่วงนี้เพื่อเก็งกำไรในบางส่วน ทั้งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบขาขึ้นและขาลง กลุ่มราคากำลังเลือกทาง จัดว่าเป็นประเภทที่มีสัญญาณของรูปแบบราคาที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่ชัดเจนว่าทิศทางของราคานั้นจะไปยังทางไหนดี ซึ่งมีความคล้ายกับรูปแบบราคาพักตัวแต่ต่างกันตรงที่ราคานั้นมีสิทธิ์พลิกเปลี่ยนไปได้ทุกทิศทาง ทั้งขาขั้นหรือขาลงก็เป็นไปได้ รูปแบบราคาในกลุ่มนี้เป็นผลจากการต่อสู้งของแรงซื้อและแรงขายที่สูสีกัน หากแรงซื้อหรือแรงขายฝ่ายใดอ่อนลงก็จะเห็นทิศทางที่แท้จริงว่าราคากำลังเลือกทางใด 7 รูปแบบ Price Pattern พื้นฐานที่ควรรู้ […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | February 28, 2024
Stochastic Oscillator จัดว่าเป็น Indicator ที่เทรดเดอร์ทุกคนรู้จักกันดี และมีส่วนสำคัญช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยในด้านการวิเคราะห์ในตลาด เพื่อดูแนวโน้มการซื้อขาย จึงเหมาะนำมาใช้เป็นตัวช่วยเพื่อให้นักลงทุนเก็งกำไรได้ง่ายในระยะสั้น เทรดเดอร์มือใหม่ควรรู้ว่า Stochastic Oscillator คืออะไร? หากคุณเป็นนักลงทุนหน้าไม่อาจยังไม่คุ้นเคยกับ Stochastic Oscillator แต่ถ้าเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพต่างก็รู้จักกันดี เปรียบเสมือนเป็น Tools ช่วยในการเทรดอย่างหนึ่ง ใช้สำหรับวัดการเปลี่ยนแปลงของราคา จากราคาปิดเปรียบกับราคาในปัจจุบัน จากจุดนี้เองจะทำให้เทรดเดอร์เข้าใจกับสถานการณ์ดีว่าต้องเคลื่อนที่อย่างไร จะเทรนด์เลื่อนที่ไปยังทิศใดกันแน่ สำหรับอินดิเคเตอร์ตัวนี้อาศัยเส้น 2 เส้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว เส้นหนึ่งจะเคลื่อนที่เร็วกว่าอีกเส้นหนึ่ง ทำให้การคาดการณ์ของเทรดเดอร์มีความแม่นยำมากขึ้นเมื่ออ่านเครื่องมือประเภทนี้ หลักการอ่าน Stochastic Oscillator ให้ถูกต้อง ก่อนการเทรดควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Stochastic Oscillator ซึ่งมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 หลักการทำงานไม่ต่างจากเครื่องมือ Momentum ประเภทอื่น หลักการพิจารณาการอ่านค่ามี ดังนี้ หาก Indicator อยู่สูงกว่าระดับ 80 ซึ่งหมายถึงว่า ตลาดในขณะนั้นอยู่สภาวะ overbought หาก Indicator อยู่ต่ำกว่าระดับ 20 […] อ่านต่อ
โดย ALPFOREX | February 23, 2024