ตลาด Forex การใช้เครื่องมือหรืออินดิเคเตอร์เพื่อวิเคราะห์แนวโน้มของตลาดเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับนักเทรด เพราะช่วยในการคาดการณ์ทิศทางของราคาและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเลือกใช้อินดิเคเตอร์ที่เหมาะสมจะช่วยให้การตัดสินใจซื้อขายมีความแม่นยำและลดความเสี่ยงในตลาดที่มีความผันผวนสูงได้ บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับอินดิเคเตอร์ยอดนิยม 5 ชนิดที่นักเทรด Forex ใช้มากที่สุด พร้อมทั้งแนวทางการใช้งานและประโยชน์ที่สามารถนำมาใช้ในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ     Moving Average (MA) Moving Average คืออะไร  Moving Average หรือเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ เป็นอินดิเคเตอร์ที่ใช้ในการแสดงทิศทางแนวโน้มของราคาภายในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ๆ โดยคำนวณจากค่าเฉลี่ยของราคาปิดของสินทรัพย์ในช่วงเวลาที่กำหนด เช่น 10 วัน, 20 วัน หรือ 50 วัน ซึ่ง MA ช่วยให้นักเทรดสามารถมองเห็นภาพรวมของทิศทางตลาดได้ง่ายขึ้น โดยการลบสัญญาณรบกวนจากความผันผวนของราคาสั้น ๆ ออกไป วิธีการใช้งาน Moving Average MA ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มหลักของตลาดและช่วยบอกสัญญาณซื้อขาย เช่น เมื่อตลาดอยู่ในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) เส้น MA จะปรับตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง หากราคาตัดขึ้นเหนือเส้น MA จะเป็นสัญญาณในการเข้าซื้อ (Buy) แต่หากราคาตัดลงต่ำกว่าเส้น […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | October 8, 2024

เทรด Forex เป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีการแลกเปลี่ยนสกุลเงินตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันต่อสัปดาห์ สำหรับผู้ที่สนใจเริ่มต้นการเทรด Forex มีคำศัพท์สำคัญที่ต้องเข้าใจอย่างลึกซึ้ง เช่น Spread, Pip และ Lot ซึ่งทั้งหมดนี้มีผลต่อกลยุทธ์การเทรดและกำไรขาดทุนในการเทรดโดยตรง ในบทความนี้ เราจะมาเจาะลึกถึงแนวคิดและความสำคัญของคำศัพท์เหล่านี้   Spread คืออะไร? ความหมายของ Spread ใน Forex Spread คือส่วนต่างระหว่างราคาซื้อ (Bid) และราคาขาย (Ask) ของคู่สกุลเงินในตลาด Forex ค่า Spread จะเป็นสิ่งที่โบรกเกอร์เรียกเก็บจากเทรดเดอร์แทนค่าคอมมิชชั่นในการทำธุรกรรม ตัวอย่างเช่น หากคู่เงิน EUR/USD  มีราคา Bid ที่ 1.1200 และราคา Ask ที่ 1.1202 ค่า Spread ก็คือ 2 pips ความเข้าใจใน Spread มีความสำคัญอย่างมาก […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | October 7, 2024

การเทรด Forex เป็นการลงทุนที่นักเทรดสามารถใช้เลเวอเรจ (Leverage) เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากใช้อย่างเหมาะสม เลเวอเรจสามารถช่วยขยายผลกำไรจากการลงทุนได้มากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มทุน แต่ในทางกลับกันหากใช้อย่างไม่ระมัดระวัง เลเวอเรจอาจเพิ่มความเสี่ยงให้ขาดทุนได้เช่นกัน บทความนี้จะอธิบายวิธีการสร้างโอกาสจากเลเวอเรจ พร้อมทั้งเทคนิคการจัดการความเสี่ยงอย่างละเอียด   เลเวอเรจในตลาด Forex คืออะไร? เลเวอเรจ (Leverage) คือการใช้เงินกู้จากโบรกเกอร์เพื่อเพิ่มกำลังซื้อของนักเทรด เมื่อมีการใช้เลเวอเรจ นักเทรดสามารถเปิดตำแหน่งที่มีขนาดใหญ่กว่าเงินทุนของตนเองได้ ซึ่งหมายความว่าเพียงแค่เงินทุนเริ่มต้นเล็กน้อย ก็สามารถเปิดการซื้อขายในตลาด Forex ได้ด้วยมูลค่าที่สูงขึ้น ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดมีเงินทุน 1,000 USD และเลือกเลเวอเรจ 1:100 จะสามารถเปิดการซื้อขายได้ถึง 100,000 USD อย่างไรก็ตาม เลเวอเรจที่สูงขึ้นก็มาพร้อมกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นตามไปด้วย เพราะการขาดทุนจะเกิดขึ้นในอัตราส่วนเดียวกันกับการทำกำไร วิธีการใช้เลเวอเรจเพื่อสร้างโอกาสในการทำกำไร การใช้เลเวอเรจอย่างชาญฉลาดจะช่วยให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้ในสภาวะตลาดที่มีความผันผวนสูง นักเทรดควรเริ่มต้นด้วยการเลือกเลเวอเรจในระดับที่เหมาะสม เช่น เลเวอเรจ 1:10 หรือ 1:20 ในช่วงแรก เพื่อทำความเข้าใจและปรับตัวให้เข้ากับการซื้อขายที่มีความเสี่ยงสูง หลังจากนั้นสามารถเพิ่มเลเวอเรจเมื่อมีความมั่นใจและมีประสบการณ์มากขึ้น การเลือกขนาดเลเวอเรจที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับกลยุทธ์และแผนการซื้อขายของนักเทรด รวมถึงการวิเคราะห์สภาพตลาดเพื่อประเมินความผันผวนที่จะเกิดขึ้น     ความเสี่ยงที่ควรระวังเมื่อใช้เลเวอเรจ การใช้เลเวอเรจสูงอาจช่วยเพิ่มกำไรได้อย่างรวดเร็ว แต่นั่นก็หมายถึงการเพิ่มโอกาสขาดทุนอย่างรวดเร็วเช่นกัน ดังนั้นนักเทรดจึงควรมีแผนการจัดการความเสี่ยงที่ชัดเจน […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | October 3, 2024

Trailing Stop เป็นเครื่องมือการจัดการความเสี่ยงที่นักเทรด Forex และนักลงทุนในตลาดการเงินใช้เพื่อปกป้องกำไรและจำกัดการขาดทุน ในขณะที่การเทรดกำลังดำเนินไป Trailing Stop ช่วยให้นักเทรดสามารถกำหนดคำสั่งขายหรือซื้อเพื่อหยุดความสูญเสีย โดยจะปรับตำแหน่ง Stop Loss ตามการเคลื่อนไหวของตลาดโดยอัตโนมัติ บทความนี้จะเจาะลึกเกี่ยวกับ Trailing Stop ความสำคัญ วิธีการใช้งาน และเคล็ดลับการใช้ Trailing Stop อย่างมีประสิทธิภาพ     การทำงานของ Trailing Stop เป็นอย่างไร Trailing Stop ทำงานโดยการเลื่อนตำแหน่งของ Stop Loss ตามทิศทางของตลาด ถ้าราคาสินทรัพย์เคลื่อนไปในทิศทางที่นักเทรดคาดหวัง Trailing Stop จะเลื่อนขึ้นหรือลงตามการตั้งค่า Trailing Step ที่กำหนดไว้ ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดเปิดตำแหน่งซื้อ (Long Position) และตั้งค่า Trailing Stop ไว้ที่ระยะห่าง 50 จุด (pips) Trailing Stop จะปรับตัวตามราคาขึ้นโดยรักษาระยะห่าง […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | October 1, 2024

การเทรด Forex ด้วยบัญชีทดลองเป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมสำหรับนักเทรดมือใหม่และมืออาชีพในการฝึกฝนทักษะและทดสอบกลยุทธ์การเทรด โดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนจริง บัญชีทดลองจำลองสภาพแวดล้อมการเทรดแบบเรียลไทม์ แต่ใช้เงินเสมือนจริงในการเทรด ทำให้ผู้เทรดสามารถเรียนรู้และปรับปรุงวิธีการเทรดได้โดยไม่มีความเสี่ยงทางการเงิน บทความนี้จะอธิบายถึงประโยชน์ วิธีใช้งาน และเคล็ดลับในการเทรดด้วยบัญชีทดลองอย่างมีประสิทธิภาพ   บัญชีทดลองคืออะไร? ความหมายของบัญชีทดลอง บัญชีทดลองหรือที่เรียกว่า Demo Account คือบัญชีที่โบรกเกอร์ Forex มอบให้สำหรับนักเทรดที่ต้องการฝึกฝนการเทรดโดยใช้เงินเสมือนจริง บัญชีทดลองมีคุณสมบัติและฟังก์ชันเหมือนกับบัญชีเทรดจริง นักเทรดสามารถเข้าถึงแพลตฟอร์มการเทรด สภาพตลาด และเครื่องมือต่าง ๆ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐานได้เหมือนกับการเทรดจริง แต่ไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนจริง วัตถุประสงค์ของบัญชีทดลอง วัตถุประสงค์หลักของบัญชีทดลองคือการให้โอกาสนักเทรดในการฝึกฝนทักษะและเรียนรู้การใช้งานแพลตฟอร์มการเทรด นักเทรดสามารถใช้บัญชีทดลองเพื่อทดสอบกลยุทธ์การเทรด ปรับแต่งการจัดการความเสี่ยง และทำความคุ้นเคยกับการดำเนินการคำสั่งซื้อขายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขาดทุน การใช้งานบัญชีทดลองช่วยให้นักเทรดมีความมั่นใจและพร้อมที่จะก้าวเข้าสู่การเทรดด้วยบัญชีจริง     ประโยชน์ของการใช้บัญชีทดลอง การเรียนรู้และฝึกฝนการเทรด การใช้บัญชีทดลองเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้และฝึกฝนการเทรดโดยไม่ต้องเสี่ยงเงินทุนจริง นักเทรดสามารถทดลองซื้อขายสินทรัพย์ต่าง ๆ เช่น คู่สกุลเงิน ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์ เพื่อทำความเข้าใจวิธีการทำงานของตลาด Forex และการเคลื่อนไหวของราคา การฝึกฝนด้วยบัญชีทดลองช่วยให้เทรดเดอร์พัฒนาทักษะและความรู้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน รวมถึงการใช้งานเครื่องมือการเทรดต่าง ๆ การทดสอบกลยุทธ์การเทรด บัญชีทดลองเป็นเครื่องมือที่ยอดเยี่ยมในการทดสอบและปรับแต่งกลยุทธ์การเทรดใหม่ ๆ นักเทรดสามารถทดลองใช้กลยุทธ์ต่าง ๆ เช่น […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | September 30, 2024

การตั้ง Stop Loss และ Take Profit เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกลยุทธ์การเทรด Forex ที่มีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์ที่ไม่ใช้เครื่องมือนี้เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุนหรือพลาดโอกาสในการทำกำไร การตั้ง Stop Loss ช่วยจำกัดการขาดทุนและปกป้องพอร์ตการลงทุน ในขณะที่การตั้ง Take Profit ช่วยล็อกกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ บทความนี้จะอธิบายถึงวิธีการตั้ง Stop Loss และ Take Profit อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ทุกระดับประสบความสำเร็จในตลาด Forex     ทำไมการตั้ง Stop Loss และ Take Profit ถึงสำคัญ? การป้องกันการขาดทุน ตลาด Forex มีความผันผวนสูง การเคลื่อนไหวของราคาอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีทิศทางที่ชัดเจน การตั้ง Stop Loss ช่วยป้องกันไม่ให้เทรดเดอร์สูญเสียเงินทุนมากเกินไปในกรณีที่การเคลื่อนไหวของราคาตลาดเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับตำแหน่งที่เปิดไว้ การตั้ง Stop Loss อย่างเหมาะสมทำให้เทรดเดอร์สามารถจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และช่วยรักษาสมดุลของพอร์ตการลงทุน การรักษาผลกำไร การตั้ง Take Profit เป็นการกำหนดเป้าหมายกำไรล่วงหน้า […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | September 26, 2024

การเทรด Forex เป็นกิจกรรมที่ต้องใช้ความรู้ ความอดทน และการวางแผนที่ดี การพลาดพลั้งเพียงครั้งเดียวอาจส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อพอร์ตการลงทุนของเทรดเดอร์ ดังนั้น การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดที่พบบ่อยในตลาด Forex จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง บทความนี้จะกล่าวถึง 5 ข้อผิดพลาดที่ควรหลีกเลี่ยง เพื่อให้เทรดเดอร์สามารถปกป้องเงินทุนและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จ     การขาดการวางแผนการเทรด ความสำคัญของการวางแผนการเทรด หนึ่งในข้อผิดพลาดที่ใหญ่ที่สุดสำหรับเทรดเดอร์คือการเทรดโดยไม่มีแผนที่ชัดเจน การไม่มีแผนทำให้เทรดเดอร์ตัดสินใจโดยไม่มีหลักการและมักถูกควบคุมโดยอารมณ์ การวางแผนการเทรดอย่างละเอียดซึ่งรวมถึงการกำหนดเป้าหมาย กลยุทธ์ในการเข้าและออกจากตลาด และการจัดการความเสี่ยง เป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างยิ่ง แผนการเทรดช่วยให้เทรดเดอร์มีทิศทางและสามารถตัดสินใจอย่างมีเหตุผล แม้ในช่วงที่ตลาดมีความผันผวนสูง ผลของการขาดแผนการเทรด เมื่อเทรดเดอร์ไม่มีแผนการที่ชัดเจน พวกเขามักจะเปลี่ยนกลยุทธ์บ่อยครั้งตามอารมณ์หรือสัญญาณตลาดที่ไม่ชัดเจน ผลที่ตามมาคือการสูญเสียเงินทุนอย่างต่อเนื่องและไม่สามารถปรับปรุงการเทรดของตนเองได้     การขาดการจัดการความเสี่ยง การตั้งค่าการจัดการความเสี่ยง การจัดการความเสี่ยงเป็นหนึ่งในปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเทรด Forex หลายคนมักมองข้ามและทำการเทรดโดยไม่คำนึงถึงความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง การใช้เลเวอเรจมากเกินไป การไม่ตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) และการลงทุนมากเกินไปในตำแหน่งเดียว เป็นตัวอย่างของการขาดการจัดการความเสี่ยงที่ดี การตั้งค่าการจัดการความเสี่ยงที่เหมาะสมควรรวมถึงการกำหนดขนาดการลงทุนที่เหมาะสม การตั้งจุดตัดขาดทุน และการจำกัดความเสี่ยงต่อการเทรดให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ผลกระทบจากการขาดการจัดการความเสี่ยง การไม่จัดการความเสี่ยงอย่างถูกต้องอาจทำให้เทรดเดอร์สูญเสียเงินทุนทั้งหมดในเวลาอันสั้น แม้ว่าการเทรดครั้งเดียวจะทำกำไรได้มหาศาล แต่การเทรดที่ไม่มีการจัดการความเสี่ยงจะนำไปสู่ความล้มเหลวในระยะยาว การเทรดตามอารมณ์ อิทธิพลของอารมณ์ต่อการตัดสินใจ อารมณ์เช่นความกลัวและความโลภสามารถมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจของเทรดเดอร์อย่างมาก การเทรดตามอารมณ์มักนำไปสู่การตัดสินใจที่ไม่เหมาะสม เช่น […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | September 24, 2024

วิธีวางแผนการซื้อขาย Forex เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์มีโอกาสประสบความสำเร็จในตลาดที่มีความผันผวนและซับซ้อน การเทรดโดยไม่มีแผนที่ชัดเจนอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่เร่งรีบและการสูญเสียเงินทุน การวางแผนที่ดีช่วยให้เทรดเดอร์สามารถกำหนดกลยุทธ์ วิเคราะห์ตลาด และจัดการความเสี่ยงอย่างมีประสิทธิภาพ     การตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการเทรด การวางแผนเริ่มต้นจากการตั้งเป้าหมายและวัตถุประสงค์ในการเทรด การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้เทรดเดอร์มีทิศทางและสามารถวัดความสำเร็จได้ เป้าหมายควรเป็นแบบที่สามารถวัดผลได้จริง เช่น กำหนดกำไรที่ต้องการในแต่ละเดือนหรือกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ การตั้งเป้าหมายควรสอดคล้องกับทักษะและประสบการณ์ของเทรดเดอร์ เพื่อให้เป็นไปได้และไม่สร้างความกดดันมากเกินไป     การเลือกกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม การมีกลยุทธ์การเทรดที่ชัดเจนเป็นส่วนสำคัญของการวางแผนการซื้อขาย กลยุทธ์การเทรดจะช่วยกำหนดเงื่อนไขในการเข้าและออกจากตลาด เช่น การใช้สัญญาณทางเทคนิคเพื่อหาจุดเข้าออก หรือการใช้แนวโน้มราคา (Trend Following) เพื่อวางตำแหน่งการซื้อขาย เทรดเดอร์ควรทดสอบกลยุทธ์ต่างๆ ในบัญชีทดลองก่อนที่จะใช้เงินจริง เพื่อดูว่ากลยุทธ์นั้นเหมาะสมกับสไตล์การเทรดและสภาวะตลาดปัจจุบันหรือไม่ การวิเคราะห์ตลาดและสภาวะการเทรด การวิเคราะห์ตลาดเป็นอีกขั้นตอนสำคัญในการวางแผนการเทรด Forex เทรดเดอร์สามารถใช้การวิเคราะห์ทั้งเชิงเทคนิคและพื้นฐานเพื่อประเมินสภาวะตลาด การวิเคราะห์เชิงเทคนิคช่วยให้เห็นภาพของแนวโน้มราคาและระดับการสนับสนุนและแนวต้าน ส่วนการวิเคราะห์พื้นฐานจะเน้นที่ข่าวเศรษฐกิจ และปัจจัยที่ส่งผลต่อค่าเงิน เช่น การประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของธนาคารกลาง การวิเคราะห์เหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์ตัดสินใจได้อย่างมีข้อมูลและเป็นระบบมากขึ้น การจัดการความเสี่ยงและการจัดการเงิน การจัดการความเสี่ยงเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยปกป้องเงินทุนของเทรดเดอร์จากการสูญเสียที่ไม่คาดคิด ควรกำหนดระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้สำหรับแต่ละการเทรด โดยทั่วไปแล้วเทรดเดอร์มืออาชีพมักจะจำกัดความเสี่ยงต่อการเทรดให้อยู่ที่ 1-2% ของเงินทุนทั้งหมด นอกจากนี้ ควรใช้เครื่องมือในการจัดการความเสี่ยง เช่น การตั้งจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) เพื่อป้องกันการสูญเสียที่อาจเกินความสามารถในการยอมรับ การจัดการเงินที่ดีจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถอยู่ในตลาดได้ในระยะยาว […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | September 23, 2024

การหาจุดเข้าและออกที่ดีที่สุดในการเทรด Forex เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการขาดทุน บทความนี้จะนำเสนอเทคนิคและวิธีการต่าง ๆ ที่สามารถช่วยให้ผู้เทรดสามารถหาจุดเข้าและออกที่เหมาะสมได้ โดยจะแบ่งเนื้อหาออกเป็นหัวข้อย่อย ๆ เพื่อความเข้าใจที่ชัดเจน   เทคนิควิธีการหาจุดเข้าและออก การใช้แนวรับและแนวต้าน แนวรับและแนวต้านเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวรับคือระดับราคาที่มีแนวโน้มว่าจะหยุดการร่วงลงของราคา ในขณะที่แนวต้านคือระดับราคาที่มีแนวโน้มว่าจะหยุดการขึ้นของราคา การหาจุดเข้าเทรดที่เหมาะสมสามารถทำได้โดยการรอให้ราคาทดสอบแนวรับหรือแนวต้านและทำการเทรดเมื่อราคามีการกลับตัว การใช้แนวรับและแนวต้านช่วยให้ผู้เทรดสามารถหาจุดเข้าเทรดที่มีความน่าเชื่อถือและมีโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น การใช้เครื่องมือเทคนิคอลเช่น Moving Averages Moving Averages เป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มของราคา การใช้ Moving Averages ช่วยให้ผู้เทรดสามารถหาจุดเข้าเทรดได้โดยการดูเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ที่ตัดกัน ตัวอย่างเช่น เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดขึ้นผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว เป็นสัญญาณซื้อ และเมื่อเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะสั้นตัดลงผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ระยะยาว เป็นสัญญาณขาย การใช้ Moving Averages ช่วยให้ผู้เทรดสามารถติดตามแนวโน้มและหาจุดเข้าเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ การใช้การวิเคราะห์แท่งเทียน (Candlestick Patterns) การวิเคราะห์แท่งเทียนเป็นวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้ผู้เทรดหาจุดเข้าเทรดที่เหมาะสมได้ การดูรูปแบบแท่งเทียนเช่น Hammer, Engulfing, Doji และอื่น ๆ สามารถบ่งบอกถึงการกลับตัวของราคาและเป็นสัญญาณให้ผู้เทรดสามารถเข้าเทรดได้ในเวลาที่เหมาะสม การศึกษาและรู้จักรูปแบบแท่งเทียนต่าง ๆ จะช่วยเพิ่มความมั่นใจในการตัดสินใจและลดความเสี่ยงในการขาดทุน     การหาจุดเข้าด้วยการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน การติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจ การติดตามข่าวสารทางเศรษฐกิจเป็นสิ่งสำคัญในการหาจุดเข้าเทรดที่เหมาะสม ข่าวสารเช่น […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | August 9, 2024
crossmenu