Published on May 13, 2024
Quantitative Trading หรือการเทรดเชิงปริมาณ เป็นวิธีการซื้อขายในตลาดการเงินโดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เพื่อค้นหาโอกาสในการเทรดและบริหารความเสี่ยง ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบใช้ดุลยพินิจหรือใช้การวิเคราะห์พื้นฐาน โดย Quantitative Trading มุ่งเน้นการใช้ข้อมูลเชิงสถิติและอัลกอริทึมในการตัดสินใจซื้อขาย ทำให้สามารถประมวลผลและดำเนินการได้รวดเร็วแม่นยำ จึงได้รับความนิยมและมีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินปัจจุบันที่มีความซับซ้อนและผันผวนสูง
ข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญของ Quantitative Trading โดยต้องอาศัยข้อมูลมหาศาลจากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูลราคา ปริมาณการซื้อขาย ข่าวสาร งบการเงิน ไปจนถึงข้อมูลเชิงเทคนิค จากนั้นต้องมีการจัดระเบียบและจัดเก็บอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถเรียกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องมีกระบวนการกรองและทำความสะอาดข้อมูล เพื่อคัดเลือกเฉพาะข้อมูลที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องจริง ก่อนนำไปใช้พัฒนาโมเดลต่อไป
โมเดลการเทรดถือเป็นแกนหลักของ Quantitative Trading ซึ่งจะมีหลากหลายประเภททั้งแบบ Mean Reversion, Trend Following หรือ Machine Learning โดยต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีต ค้นหารูปแบบและความสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่ แล้วนำมาสร้างเป็นกฎเกณฑ์และสมการทางคณิตศาสตร์ เพื่อใช้ทำนายแนวโน้มของราคาในอนาคต ซึ่งโมเดลที่ดีต้องผ่านการทดสอบกับข้อมูลย้อนหลังและข้อมูลจริง ปรับจูนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนนำไปใช้งานจริง
การซื้อขายแบบอัตโนมัติเป็นอีกปัจจัยสำคัญของ Quantitative Trading เพราะช่วยให้สามารถประมวลผลและส่งคำสั่งซื้อขายได้อย่างรวดเร็วและถูกต้องตามเงื่อนไขของโมเดล ลดความผิดพลาดจากการตัดสินใจของมนุษย์ อีกทั้งยังสามารถรองรับปริมาณการซื้อขายจำนวนมากได้ ทำให้เพิ่มโอกาสในการทำกำไร อย่างไรก็ตาม การพึ่งพาระบบอัตโนมัติอาจมีข้อจำกัดหากเกิดความผิดพลาดของระบบหรือมีเหตุการณ์ผิดปกติเกิดขึ้น จึงต้องมีการติดตามและประเมินผลการทำงานของระบบอย่างสม่ำเสมอ
เป็นกลยุทธ์ที่อาศัยสมมติฐานที่ว่าราคามักจะวกกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยในระยะยาว โดยจะซื้อเมื่อราคาต่ำกว่าค่าเฉลี่ย ด้วยคาดการณ์ว่าราคาจะปรับตัวกลับขึ้นมา และจะขายทำกำไรเมื่อราคาสูงกว่าค่าเฉลี่ย กลยุทธ์นี้เหมาะกับสินทรัพย์ที่มีความผันผวนสูง แต่ยังคงมีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงอาจเกิดขึ้นหากราคาไม่สามารถกลับมายังค่าเฉลี่ยในเวลาอันสมควร
เป็นกลยุทธ์ที่มุ่งเน้นการซื้อเมื่อราคากำลังอยู่ในช่วงขาขึ้น และขายเมื่อราคากำลังอยู่ในช่วงขาลง โดยอาศัยสัญญาณจากค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ค่าดัชนีกำลัง เป็นต้น ซึ่งเหมาะกับตลาดที่มีแนวโน้มชัดเจนต่อเนื่อง ทั้งนี้ความเสี่ยงสำคัญคือการพลาดจังหวะในการเข้าและออกตลาด หรือเมื่อเกิดสัญญาณซื้อขายที่ผิดพลาด ทำให้ต้องมีระบบจัดการความเสี่ยงที่ดี
เป็นกลยุทธ์ที่แสวงหาโอกาสทำกำไรจากความแตกต่างของราคาระหว่างสินทรัพย์ที่มีความสัมพันธ์กัน ซึ่งโดยปกติแล้วมักจะเคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน แต่เมื่อเกิดความผิดปกติ ทำให้สินทรัพย์ตัวหนึ่งมีราคาสูงหรือต่ำกว่าอีกตัวมากเกินไป จึงทำการซื้อสินทรัพย์ที่ราคาถูกและขายสินทรัพย์ที่ราคาแพง เพื่อคาดการณ์ว่าสินทรัพย์ทั้งสองจะกลับมาเคลื่อนไหวตามปกติ อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดของกลยุทธ์นี้คือโอกาสในการทำกำไรมักจะค่อนข้างเล็กและใช้เวลาสั้น ต้องอาศัยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์อย่างละเอียดและต้องมีต้นทุนการทำธุรกรรมที่ต่ำ
Quantitative Trading เป็นการประยุกต์ใช้ความรู้ทางคณิตศาสตร์ สถิติ และเทคโนโลยี ในการพัฒนากลยุทธ์และระบบการซื้อขายในตลาดการเงิน ซึ่งมีข้อได้เปรียบในแง่ของความรวดเร็ว แม่นยำ และปราศจากอารมณ์ของมนุษย์ จึงกลายเป็นเทรนด์ที่มาแรงและจะเติบโตต่อเนื่องในอนาคต อย่างไรก็ตาม การทำ Quantitative Trading ต้องอาศัยองค์ความรู้และทักษะที่หลากหลาย ทั้งการจัดการข้อมูล การพัฒนาโมเดล ไปจนถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี รวมทั้งต้องเข้าใจถึงข้อจำกัดของระบบและกลยุทธ์แต่ละประเภท สำหรับผู้ที่สนใจศึกษาและทำ Quantitative Trading จึงควรเริ่มต้นจากการเรียนรู้พื้นฐานด้านสถิติ การเขียนโปรแกรม และทฤษฎีการลงทุนให้แม่นยำ ก่อนศึกษาเพิ่มเติมในเชิงลึกเกี่ยวกับการสร้างโมเดลและระบบเทรดอย่างจริงจังต่อไป