วิธีการตั้ง Stop Loss และ Take Profit สำหรับเทรด Forex

Published on September 26, 2024

การตั้ง Stop Loss และ Take Profit เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในกลยุทธ์การเทรด Forex ที่มีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์ที่ไม่ใช้เครื่องมือนี้เสี่ยงต่อการสูญเสียเงินทุนหรือพลาดโอกาสในการทำกำไร การตั้ง Stop Loss ช่วยจำกัดการขาดทุนและปกป้องพอร์ตการลงทุน ในขณะที่การตั้ง Take Profit ช่วยล็อกกำไรเมื่อราคาสินทรัพย์ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ บทความนี้จะอธิบายถึงวิธีการตั้ง Stop Loss และ Take Profit อย่างละเอียด เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ทุกระดับประสบความสำเร็จในตลาด Forex

 

เปิดบัญชีเทรดที่ ALPFOREX

 

ทำไมการตั้ง Stop Loss และ Take Profit ถึงสำคัญ?

การป้องกันการขาดทุน

ตลาด Forex มีความผันผวนสูง การเคลื่อนไหวของราคาอาจเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วและไม่มีทิศทางที่ชัดเจน การตั้ง Stop Loss ช่วยป้องกันไม่ให้เทรดเดอร์สูญเสียเงินทุนมากเกินไปในกรณีที่การเคลื่อนไหวของราคาตลาดเป็นไปในทิศทางตรงกันข้ามกับตำแหน่งที่เปิดไว้ การตั้ง Stop Loss อย่างเหมาะสมทำให้เทรดเดอร์สามารถจำกัดการขาดทุนให้อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ และช่วยรักษาสมดุลของพอร์ตการลงทุน

การรักษาผลกำไร

การตั้ง Take Profit เป็นการกำหนดเป้าหมายกำไรล่วงหน้า ทำให้เทรดเดอร์สามารถล็อกกำไรได้เมื่อราคาของสินทรัพย์ถึงระดับที่คาดหวัง การตั้ง Take Profit ที่ชัดเจนช่วยป้องกันความเสี่ยงจากการพลิกกลับของตลาดในช่วงเวลาที่เทรดเดอร์ไม่สามารถติดตามตลาดได้อย่างต่อเนื่อง และยังช่วยให้เทรดเดอร์มีวินัยในการเทรดโดยไม่ถูกครอบงำด้วยอารมณ์

 

Stop Loss

 

วิธีการตั้ง Stop Loss

การตั้ง Stop Loss ตามระดับการสนับสนุนและต้านทาน

หนึ่งในวิธีการตั้ง Stop Loss ที่ได้รับความนิยมคือการตั้งค่าที่ตำแหน่งของระดับการสนับสนุน (Support) หรือระดับการต้านทาน (Resistance) เมื่อเปิดตำแหน่ง Long (ซื้อ) เทรดเดอร์สามารถตั้ง Stop Loss ไว้ต่ำกว่าระดับการสนับสนุนเล็กน้อย ในทางกลับกัน หากเปิดตำแหน่ง Short (ขาย) เทรดเดอร์สามารถตั้ง Stop Loss ไว้สูงกว่าระดับการต้านทานเล็กน้อย การใช้ระดับเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีจุดอ้างอิงที่มีความสำคัญทางเทคนิคและสามารถจำกัดความเสี่ยงได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การตั้ง Stop Loss ตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average)

อีกวิธีหนึ่งที่ใช้กันอย่างแพร่หลายคือการตั้ง Stop Loss ตามค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Average) เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 50 วันหรือ 200 วัน การตั้ง Stop Loss ตามเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถป้องกันการขาดทุนในกรณีที่แนวโน้มเปลี่ยนแปลงไป โดยเฉพาะในตลาดที่มีแนวโน้มที่ชัดเจน

การตั้ง Stop Loss ตามความผันผวน (Volatility)

การตั้ง Stop Loss ตามความผันผวนของตลาดเป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์สามารถใช้ตัวชี้วัดเช่น ATR (Average True Range) เพื่อกำหนดระดับ Stop Loss ที่เหมาะสม ATR แสดงถึงความผันผวนเฉลี่ยของตลาดในช่วงเวลาหนึ่ง การตั้ง Stop Loss ไว้ห่างจากราคาปัจจุบันตามค่าของ ATR ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปรับตัวตามความผันผวนของตลาดและลดโอกาสที่ Stop Loss จะถูกกระทบโดยการเคลื่อนไหวของราคาที่ไม่เป็นสาระสำคัญ

 

วิธีการตั้ง Take Profit

การตั้ง Take Profit ตามระดับการสนับสนุนและต้านทาน

การตั้ง Take Profit ตามระดับการสนับสนุนและต้านทานเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยม เทรดเดอร์สามารถตั้ง Take Profit ไว้ที่ระดับการต้านทานสำคัญเมื่อเปิดตำแหน่ง Long และตั้งไว้ที่ระดับการสนับสนุนสำคัญเมื่อเปิดตำแหน่ง Short วิธีนี้ช่วยให้เทรดเดอร์มีจุดออกที่ชัดเจนและสามารถล็อกกำไรได้เมื่อราคาของสินทรัพย์ถึงระดับที่คาดหวัง

การตั้ง Take Profit ตามเป้าหมายกำไรต่อความเสี่ยง (Risk-Reward Ratio)

การใช้ Risk-Reward Ratio เป็นอีกวิธีที่มีประสิทธิภาพในการตั้ง Take Profit เทรดเดอร์สามารถกำหนดเป้าหมายกำไรที่สัมพันธ์กับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ เช่น กำหนด Risk-Reward Ratio ที่ 1:2 หมายความว่าถ้าความเสี่ยงคือ 100 จุด เทรดเดอร์จะตั้ง Take Profit ที่ 200 จุด การใช้วิธีนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถรักษาความสมดุลระหว่างความเสี่ยงและผลตอบแทน และเพิ่มโอกาสในการทำกำไรในระยะยาว

การตั้ง Take Profit ตามการเคลื่อนไหวของราคา (Price Action)

การวิเคราะห์ Price Action เป็นอีกวิธีที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตั้ง Take Profit อย่างมีประสิทธิภาพ เทรดเดอร์สามารถใช้รูปแบบกราฟแท่งเทียน (Candlestick Patterns) เช่น Double Top, Head and Shoulders หรือรูปแบบอื่น ๆ เพื่อระบุระดับที่ราคามีแนวโน้มที่จะกลับตัว การตั้ง Take Profit ที่ระดับเหล่านี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถล็อกกำไรได้ในจุดที่มีความเป็นไปได้สูงที่ราคาจะพลิกกลับ

 

Stop Loss และ Take Profit

 

เคล็ดลับในการใช้ Stop Loss และ Take Profit

การปรับเปลี่ยน Stop Loss และ Take Profit

ตลาด Forex มีความผันผวน เทรดเดอร์ควรพิจารณาการปรับเปลี่ยน Stop Loss และ Take Profit ตามสภาพตลาดที่เปลี่ยนแปลง การติดตามข่าวสารและข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญจะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถปรับกลยุทธ์และตำแหน่งของ Stop Loss และ Take Profit ได้อย่างเหมาะสมเพื่อป้องกันการสูญเสียและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร

การใช้ Trailing Stop

Trailing Stop เป็นวิธีที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถล็อกกำไรขณะที่ราคากำลังเคลื่อนไหวในทิศทางที่ต้องการ โดยการเลื่อน Stop Loss ตามราคาที่เคลื่อนไหว วิธีนี้ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเพิ่มโอกาสในการทำกำไรโดยไม่ต้องล็อกตำแหน่งของ Take Profit ไว้ที่จุดคงที่ และยังคงปกป้องพอร์ตจากการพลิกกลับของราคา

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 

สรุปการตั้ง Stop Loss และ Take Profit คือสิ่งที่สำคัญ

การตั้ง Stop Loss และ Take Profit เป็นส่วนสำคัญในการเทรด Forex ที่ประสบความสำเร็จ การตั้ง Stop Loss อย่างเหมาะสมช่วยป้องกันการขาดทุนและรักษาความสมดุลของพอร์ตการลงทุน ในขณะที่การตั้ง Take Profit ช่วยล็อกกำไรและป้องกันความเสี่ยงจากการเปลี่ยนแปลงของตลาด เทรดเดอร์ควรเรียนรู้และฝึกฝนการตั้ง Stop Loss และ Take Profit ตามวิธีการต่าง ๆ เช่น การใช้ระดับการสนับสนุนและต้านทาน ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ และความผันผวนของตลาด เพื่อเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในตลาด Forex

crossmenu