Published on November 22, 2024

การเทรด CFD กับการเทรด Forex อะไรคือความแตกต่าง?

การลงทุนในปัจจุบันไม่ได้จำกัดอยู่แค่หุ้นหรือพันธบัตร การเทรด CFD และ Forex เป็นสองรูปแบบที่ได้รับความนิยมสูงในตลาดการเงิน ทั้งสองมีความน่าสนใจและข้อดีที่ต่างกัน แต่สำหรับผู้ที่สนใจลงทุน ควรทำความเข้าใจความแตกต่างระหว่าง การเทรด CFD กับการเทรด Forex เพื่อเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสมกับความต้องการและระดับความเสี่ยงของตนเอง บทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจลักษณะพื้นฐานของการเทรดทั้งสองแบบ รวมถึงข้อดีและข้อเสียในแต่ละรูปแบบ

 

การเทรด CFD

การเทรด CFD คืออะไร?

CFD ย่อมาจาก Contract for Difference หรือสัญญาซื้อขายส่วนต่าง ซึ่งเป็นสัญญาทางการเงินระหว่างนักเทรดและโบรกเกอร์ โดยนักเทรดสามารถทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ ได้โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์นั้น เช่น หุ้น, ทองคำ, น้ำมัน หรือสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ

ในขณะที่การเทรด CFD จะอนุญาตให้นักลงทุนทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง โดยการเปิด “คำสั่งซื้อ” (Long) หากคาดว่าราคาจะเพิ่มขึ้น หรือเปิด “คำสั่งขาย” (Short) หากคาดว่าราคาจะลดลง นักเทรดจะจ่ายเฉพาะส่วนต่างของราคาซื้อและราคาขายของสินทรัพย์ที่เลือก ซึ่งทำให้มีโอกาสรับผลกำไรหรือขาดทุนตามการเปลี่ยนแปลงของราคาสินทรัพย์นั้น ๆ

 

การเทรด Forex

การเทรด Forex คืออะไร?

Forex หรือ Foreign Exchange คือการซื้อขายสกุลเงินต่างประเทศ เช่น USD, EUR, GBP, JPY ซึ่งในตลาด Forex นักลงทุนสามารถแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่าง ๆ กันในรูปแบบคู่เงิน เช่น EUR/USD และ GBP/JPY จุดเด่นของการเทรด Forex คือการลงทุนในสกุลเงินโดยมุ่งหวังกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ

เช่นเดียวกับ CFD นักเทรด Forex สามารถทำกำไรจากการเพิ่มหรือลดของอัตราแลกเปลี่ยน โดยการเปิด “คำสั่งซื้อ” (Long) เมื่อคาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะสูงขึ้น และเปิด “คำสั่งขาย” (Short) เมื่อคาดว่าอัตราแลกเปลี่ยนจะลดลง ตลาด Forex มีการซื้อขายอย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถเลือกเวลาซื้อขายได้ตามที่ต้องการ

 

CFD TRADING VS FOREX TRADING

ความแตกต่างระหว่างการเทรด CFD และ Forex

  1. ประเภทของสินทรัพย์

  • การเทรด CFD: สามารถลงทุนในสินทรัพย์หลากหลายประเภทได้ เช่น หุ้น, ดัชนี, สินค้าโภคภัณฑ์, และสกุลเงินดิจิทัล เนื่องจาก CFD ครอบคลุมตลาดที่กว้างมาก จึงเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์หลากหลายประเภท
  • การเทรด Forex: การซื้อขายจะเน้นไปที่สกุลเงินต่าง ๆ เท่านั้น ดังนั้นตลาด Forex จะเน้นเฉพาะคู่เงิน เช่น EUR/USD, USD/JPY และ GBP/USD
  1. เวลาในการเทรด

  • การเทรด CFD: เวลาเปิดปิดการซื้อขายของสินทรัพย์ที่อยู่ใน CFD จะขึ้นอยู่กับสินทรัพย์นั้น ๆ เช่น ตลาดหุ้นจะเปิดตามเวลาทำการของตลาดหลักทรัพย์นั้น ๆ
  • การเทรด Forex: เป็นตลาดที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ (จันทร์-ศุกร์) ซึ่งหมายความว่านักเทรดสามารถทำการซื้อขายได้ตลอดเวลาที่ต้องการ โดยไม่ต้องรอตลาดเปิดเหมือนกับหุ้น
  1. ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่าย

  • การเทรด CFD: ค่าธรรมเนียมมักจะอยู่ในรูปของค่าส่วนต่างราคาหรือค่า Spread ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามสินทรัพย์ที่เลือกเทรด นอกจากนี้ยังอาจมีค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม เช่น ค่าคอมมิชชั่นสำหรับบางประเภทของหุ้น และค่าโรลโอเวอร์ (Rollover) หรือค่าธรรมเนียมถือครองสัญญา CFD ข้ามคืน
  • การเทรด Forex: มักมีเพียงค่า Spread และค่าโรลโอเวอร์ที่ต้องจ่ายเมื่อถือครองสัญญาในช่วงข้ามคืน ค่า Spread ของคู่เงินจะต่ำกว่า CFD โดยทั่วไป
  1. การใช้ Leverage

ทั้งการเทรด CFD และ Forex มักจะมีการใช้ Leverage ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้นักเทรดสามารถเทรดด้วยมูลค่าที่สูงกว่าทุนของตน โดย Leverage จะช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไร แต่ก็เสี่ยงที่จะขาดทุนมากเช่นกัน

  • การเทรด CFD: Leverage สำหรับ CFD ขึ้นอยู่กับสินทรัพย์ที่เลือก เช่น หุ้นหรือดัชนี อาจมี Leverage ที่ต่ำกว่าเมื่อเทียบกับ Forex
  • การเทรด Forex: Leverage ในตลาด Forex มักจะสูงกว่ามาก โดยอาจสูงถึง 1:500 ซึ่งเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่ต้องการเพิ่มผลตอบแทน แต่ต้องระมัดระวังในการจัดการความเสี่ยง

 

เปิดบัญชีเทรดที่ ALPFOREX

 

  1. ข้อดีและข้อเสียของแต่ละประเภทการเทรด

ข้อดีของการเทรด CFD

  • สามารถเทรดได้หลายประเภทของสินทรัพย์ เช่น หุ้น ดัชนี และสินค้าโภคภัณฑ์
  • สามารถทำกำไรได้ทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง
  • ใช้เงินลงทุนที่ต่ำเนื่องจาก Leverage

ข้อเสียของการเทรด CFD

  • ค่าธรรมเนียมและค่า Spread อาจจะสูงเมื่อเทียบกับ Forex
  • ค่าธรรมเนียมการถือครองสัญญา CFD ข้ามคืนอาจทำให้ต้นทุนสูงขึ้น

ข้อดีของการเทรด Forex

  • ตลาดเปิด 24 ชั่วโมงใน 5 วันทำการ ทำให้ยืดหยุ่นและสะดวกต่อการเทรด
  • ค่า Spread ต่ำและ Leverage สูง ทำให้มีโอกาสทำกำไรมากขึ้น

ข้อเสียของการเทรด Forex

  • เน้นเฉพาะการเทรดสกุลเงินเท่านั้น ไม่สามารถเทรดสินทรัพย์ประเภทอื่น ๆ ได้
  • การใช้ Leverage สูงมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเทรด CFD กับการเทรด Forex

CFD เหมาะกับนักลงทุนประเภทใด?

การเทรด CFD เหมาะกับนักลงทุนที่ต้องการกระจายการลงทุนในหลาย ๆ สินทรัพย์ เช่น หุ้น, ทองคำ, และน้ำมัน โดยมีโอกาสในการทำกำไรทั้งในตลาดขาขึ้นและขาลง และต้องการความยืดหยุ่นในการเลือกประเภทของสินทรัพย์ที่ต้องการลงทุน

Forex เหมาะกับนักลงทุนประเภทใด?

การเทรด Forex เหมาะกับนักลงทุนที่สนใจในตลาดเงินตราต่างประเทศ เนื่องจากการเทรด Forex จะเน้นไปที่การซื้อขายคู่เงินระหว่างสกุลเงินต่าง ๆ นักลงทุน Forex ยังต้องมีความเข้าใจเรื่องการใช้ Leverage และการจัดการความเสี่ยงเป็นอย่างดี

ควรเลือกเทรด CFD หรือ Forex?

การเลือกเทรด CFD หรือ Forex ขึ้นอยู่กับความต้องการและกลยุทธ์การลงทุนของแต่ละคน หากคุณต้องการกระจายการลงทุนในหลายประเภทสินทรัพย์ CFD อาจเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณเน้นเฉพาะการเทรดสกุลเงิน Forex อาจเป็นตลาดที่เหมาะสมกว่า

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

 

สรุปการเทรด CFD และการเทรด Forex

การเทรด CFD และการเทรด Forex มีความแตกต่างทั้งในเรื่องของสินทรัพย์ เวลาซื้อขาย ค่าธรรมเนียม และ Leverage ผู้ที่สนใจใน Forex และ CFD ควรศึกษาและทำความเข้าใจรูปแบบการเทรดแต่ละประเภทอย่างละเอียดเพื่อให้สามารถตัดสินใจเลือกกลยุทธ์การลงทุนที่เหมาะสมตามความต้องการและความเสี่ยงที่ยอมรับได้

crossmenu