การใช้ Parabolic SAR และการวิเคราะห์ในฟอเร็กซ์ อย่างละเอียด

Published on June 25, 2024

ในโลกของการเทรดฟอเร็กซ์ เครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการตัดสินใจซื้อขาย Parabolic SAR (Stop and Reverse) เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ใช้เพื่อระบุทิศทางของราคาและเวลาที่ควรเข้าและออกจากการซื้อขาย บทความนี้จะอธิบายเกี่ยวกับ Parabolic SAR ในรายละเอียด รวมถึงวิธีการใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิคสำหรับการเทรดฟอเร็กซ์

 

Parabolic SAR ในการเทรดฟอเร็กซ์

การใช้งาน Parabolic SAR ในการเทรดฟอเร็กซ์

Parabolic SAR ถูกใช้อย่างแพร่หลายในการเทรดฟอเร็กซ์เพื่อระบุทิศทางของแนวโน้มและจุดกลับตัว วิธีการใช้งานหลักๆ มีดังนี้:

  1. การระบุทิศทางของแนวโน้ม: จุดของ Parabolic SAR จะอยู่ใต้ราคาตลาดในแนวโน้มขาขึ้น และจะอยู่เหนือราคาตลาดในแนวโน้มขาลง นักเทรดสามารถใช้ข้อมูลนี้เพื่อยืนยันทิศทางของการเทรด
  2. การกำหนดจุดเข้าซื้อขาย: เมื่อจุด Parabolic SAR เปลี่ยนจากเหนือราคามาอยู่ใต้ราคา อาจเป็นสัญญาณให้เปิดสถานะซื้อ (Long Position) ในทางกลับกัน หากจุด Parabolic SAR เปลี่ยนจากใต้ราคามาอยู่เหนือราคา อาจเป็นสัญญาณให้เปิดสถานะขาย (Short Position)
  3. การตั้งจุดหยุดขาดทุน (Stop Loss): Parabolic SAR สามารถใช้ในการกำหนดระดับการหยุดขาดทุนโดยการย้ายจุด SAR ตามราคาไปเรื่อยๆ ซึ่งช่วยให้นักเทรดสามารถปกป้องกำไรที่ได้รับและจำกัดความเสี่ยงในกรณีที่ตลาดกลับทิศทาง

พื้นฐานของ Parabolic SAR

Parabolic SAR ถูกพัฒนาโดย J. Welles Wilder, Jr. ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงการการเงินและการลงทุน SAR ย่อมาจาก Stop and Reverse ซึ่งหมายถึงการหยุดและกลับทิศทาง จุดเด่นของเครื่องมือนี้คือการสร้างจุดบนกราฟราคาที่บ่งบอกถึงทิศทางและการเปลี่ยนแปลงของแนวโน้ม Parabolic SAR มักถูกใช้เพื่อระบุระดับการหยุดขาดทุน (Stop Loss) และจุดกลับตัวของตลาด

 

เปิดบัญชีเทรดที่ ALPFOREX

 

การคำนวณ Parabolic SAR

การคำนวณ Parabolic SAR ขึ้นอยู่กับราคาเฉลี่ยของช่วงเวลาที่กำหนด และการเร่งความเร็ว (Acceleration Factor) สูตรการคำนวณเริ่มจากการกำหนดค่าพื้นฐาน เช่น จุดสูงสุด (Extreme Point) และค่าเริ่มต้นของ AF ซึ่งมักเริ่มที่ 0.02 และสามารถเพิ่มขึ้นได้ถึง 0.20 สูตรการคำนวณของ Parabolic SAR มีดังนี้:

SAR(Tomorrow) = SAR(Today) + AF * (EP - SAR(Today))

โดยที่ SAR(Tomorrow) คือค่าของ Parabolic SAR ในวันถัดไป, SAR(Today) คือค่าของ Parabolic SAR ในวันนี้, AF คือค่า Acceleration Factor และ EP คือ Extreme Point

ค่า AF จะเพิ่มขึ้นเมื่อราคาสูงสุดใหม่ (ในกรณีขาขึ้น) หรือราคาต่ำสุดใหม่ (ในกรณีขาลง) ถูกสร้างขึ้น สิ่งนี้ทำให้ SAR เคลื่อนที่ใกล้กับราคามากขึ้นเมื่อแนวโน้มยืดยาว

 

Parabolic SAR

 

ข้อดีและข้อเสียของ Parabolic SAR

Parabolic SAR มีข้อดีหลายประการในการใช้งาน ประการแรกคือความง่ายในการใช้งานและความเข้าใจ เครื่องมือนี้สามารถแสดงสัญญาณได้อย่างชัดเจนและเข้าใจง่าย ประการที่สองคือการช่วยระบุแนวโน้มและจุดกลับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้นักเทรดสามารถทำกำไรได้มากขึ้นจากการตัดสินใจที่ถูกต้อง

อย่างไรก็ตาม Parabolic SAR ก็มีข้อเสียเช่นกัน ประการแรกคือการไม่เหมาะสมกับตลาดที่มีการเคลื่อนไหวที่ไม่แน่นอน (Sideways Market) ในตลาดที่ไม่มีแนวโน้มชัดเจน จุดของ SAR อาจให้สัญญาณเท็จซึ่งอาจนำไปสู่การตัดสินใจที่ผิดพลาด ประการที่สองคือการตั้งค่า AF อาจต้องปรับเปลี่ยนตามลักษณะของตลาดในช่วงเวลานั้นๆ การตั้งค่า AF ที่ไม่เหมาะสมอาจทำให้เครื่องมือไม่แม่นยำ

 

การใช้งาน Parabolic SAR กับเครื่องมืออื่น

เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการวิเคราะห์และลดความเสี่ยงจากสัญญาณเท็จ นักเทรดมักใช้ Parabolic SAR ร่วมกับเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคอื่นๆ เช่น Moving Averages, Relative Strength Index (RSI), และ Bollinger Bands การผสมผสานนี้ช่วยให้นักเทรดสามารถยืนยันสัญญาณและทำการตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากขึ้น

สรุปใจความสำคัญของ Parabolic SAR

Parabolic SAR เป็นเครื่องมือการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่มีประโยชน์ในการเทรดฟอเร็กซ์ ใช้งานง่ายและสามารถให้สัญญาณที่ชัดเจนเกี่ยวกับทิศทางของแนวโน้มและจุดกลับตัว อย่างไรก็ตาม ควรใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่นๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการวิเคราะห์ และควรระมัดระวังเมื่อใช้งานในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวที่ไม่แน่นอน ด้วยการใช้ Parabolic SAR อย่างถูกต้อง นักเทรดสามารถปรับปรุงผลการเทรดและเพิ่มโอกาสในการประสบความสำเร็จในตลาดฟอเร็กซ์ได้

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

crossmenu