ดัชนีหุ้น (Stock Index) คืออะไร ทำความรู้จัก เพื่อผลลัพธ์การลงทุน

ดัชนีหุ้น (Stock Index) ถือว่าเป็น Choice ที่น่าสนใจสำหรับการลงทุน เนื่องจากไม่ว่าใครก็สามารถทำการซื้อขายได้โดยตลอดเวลา โดยสามารถเลือกซื้อ เลือกขาย กระจายความเสี่ยงได้ตามความต้องการได้ทันที โดยสามารถใช้แนวทาง ใช้เทคนิคต่าง ๆ ในการซื้อขายได้ทุกเมื่อ เมื่อเทียบกับตลาดอื่นแล้วถือว่าเป็นตลาดที่มีดัชนีควบคุมราคาที่ต่ำ ทำให้ทุก ๆ คนสามารถลงทุนหุ้นในตลาดของประเทศต่าง ๆ ได้มากมายเช่น หุ้นใน USA หรือว่าหุ้นใน UK เป็นต้น

การลงทุนดัชนีหุ้น (Stock Index)

แม้ว่าการลงทุน ดัชนีหุ้น (Stock Index) จะมีสภาพคล่องที่ไม่สามารถเทียบเท่าพวกฟอเร็กซ์ได้ และค่าธรรมเนียมที่สูงกว่าในบางโบรกเกอร์ แถมยังมีรอบการซื้อขายตามช่วงเวลาตลาดของแต่ละพื้นที่ ไม่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง เพราะมีข้อจำกัดด้านเวลา แต่ก็ยังมีหลายคนที่ยังคงซื้อขาย กันเยอะ จริง ๆ แล้วการซื้อหุ้นมันก็เป็นความเสี่ยงอย่างหนึ่ง แต่เราสามารถกระจายความเสี่ยงโดยการซื้อหุ้นหลาย ๆ บริษัทได้เพื่อกระจายความเสี่ยงและเก็งกำไร

การลงทุนระยะยาวกับดัชนีหุ้น

สำหรับดัชนีหุ้น (Stock Index) ยังคงมีประโยชน์เสมอ โดยเฉพาะการลงทุนในระยะยาว เพราะว่ามีความผันผวนที่ต่ำ และสเปรดที่สูง ปกติแล้วการคำนวณ Stock Index จะมีหลักการคำนวณอย่างชัดเจนโดยการใช้ "จำนวนของหุ้น x ราคาของหุ้น" แล้วหาร มูลค่าหลักทรัพย์ทั้งหมด ณ ปัจจุบัน เช่นหากว่ามูลค่าของบริษัท A ในตลาดหลักทรัพย์ ถูกประเมินไว้ 1,000,000 บาท โดยมีมูลค่าหุ้นทั้งหมด 200,000,000 บาท บริษัทก็จะมีมูลค่าประมาณ 1% เป็นต้น

ดัชนีหุ้น ตัวบ่งบอกถึง Performance ของบริษัท

จริง ๆ แล้วดัชนีหุ้น เป็นเหมือนตัวบ่งบอก Performance ของแต่ละบริษัท ว่ามีความมั่นคงทางการเงินเพียงใด บริษัทไหนมีหลักทรัพย์เท่าไหร่ ยิ่งบริษัทไหนหลักทรัพย์เยอะก็เหมือนว่ามีเงิน มีความมั่นคงของแบรนด์ตัวเองเยอะ ทำให้บริษัทเหล่านั้นมีอิทธิพลต่อคนทั่งโลกไปด้วย ลองคิดดูว่าแบรนด์ดัง ๆ ที่เรารู้จักกัน ในทุกวันนี้ ที่คนรู้จักกันเยอะ ๆ ยิ่งมีคนรู้จักเยอะ มูลค่าทางการตลาดก็จะยิ่งเพิ่มขึ้น เพราะว่าเป็นบริษัทที่มีอิทธิพลกับผู้บริโภคเยอะ หลักทรัพย์ของบริษัทก็เยอะตามไปด้วย ทำให้มีคนอยากลงทุนในหุ้นของบริษัทเพื่อเก็งกำไรกันมากขึ้น

ประเภทดัชนีหุ้น จากทั่วโลกที่น่าสนใจ

สำหรับใครที่กำลังสนใจจะลงทุนดัชนีหุ้น (Stock Index) ต้องมาดูเลยว่ามีดัชนีตัวไหนบ้างที่น่าสนใจและได้รับความนิยมในการลงทุนจากเหล่าบรรดาเทรดเดอร์กันบ้าง

• ดัชนีหุ้น USA : Dow Jones Industrial Average (DJI30) หรือตัวย่อ DJIA ได้รับความสนใจเยอะที่สุดในบรรดานักลงทุน แม้ว่าจะมีขาขึ้นขาลงแต่ก็มีแนวโน้มขาขึ้นเพิ่มเรื่อย ๆ จนเป็นดัชนีตัวท็อปที่ใคร ๆ ก็ต้องลงทุน
• ดัชนีหุ้น USA : Nasdaq เป็นดัชนีที่ได้รวมรวม BIG COMPANY ต่าง ๆ 100 บริษัทใน USA เอาไว้ และได้รับการยอมรับมากที่สุดในโลก เช่น บริษัท Adobe, Ebay, Facebook, Microsoft เป็นต้น
• ดัชนีหุ้น USA : S&P 500 เป็นดัชนีที่วัด Performance ของบริษัทใหญ่ ๆ ในตลาดหุ้นของ USA กว่า 500 แห่ง เช่น com, Coca-Cola, FedEx, Harley-Davidson, McDonald's, PayPal, Twitter เป็นต้น
• ดัชนีหุ้นอังกฤษ : FTSE 100 เป็นดัชนีที่ได้รวมบริษัทตลาดหลักทรัพย์เฉพาะในลอนดอนเอาไว้ เช่น AstraZeneca, British American Tobacco, easyJet, Lloyds Banking Group, Unilever เป็นต้น
• ดัชนีหุ้นเยอรมัน : DAX40 เป็นดัชนีที่ได้รวมรวบบริษัทยักษ์ใหญ่ในแฟรงค์เฟิร์ตเอาไว้ 40 แห่ง เช่น Adidas, Deutsche Bank, Lufthansa, Siemens, Allianz, Fresenius, Linde, VW เป็นต้น
• ดัชนีหุ้นฝรั่งเศส : CAC 40 เป็นดัชนีหุ้นที่ได้รวมบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ของปารีสเอาไว้ 40 แห่งที่มีมูลค่าสูงที่สุด เช่น Airbus, AXA, L'Oréal, LVMH, Michelin, Renault เป็นต้น
• ดัชนีหุ้นยูโรโซน : STOXX 50 เป็นดัชนีที่ได้รวบรวมบริษัท 50 แห่งในยุโรป โดยมีมูลค่าหลักทรัยพ์มากที่สุดใน Euronext ซึ่งเป็น Stock Market หลัก ๆ ในทวีปยุโรป
• ดัชนีหุ้นญี่ปุ่น : Nikkei 225 เป็นดัชนีหุ้นฝั่งเอเชียที่รวมบริษัท 225 แห่งเข้าไว้ด้วยกันและใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น โดยมีบริษัทเช่น Casio, FujiFilm, Honda, Mazda, Nissan, Panasonic, Suzuki, Toyota, Yamaha เป็นต้น
• ดัชนีหุ้นออสเตรเลีย : ASX 200 เป็นอีกหนึ่ง Choice ที่คุณสามารถซื้อขายหุ้นในออสเตรเลียได้ โดยดัชนีหุ้นนี้ได้รวบรวมบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์มากที่สุดเอาไว้กว่า 200 แห่งในออสเตรเลีย เช่น Blackmores, Virgin Money, Xero เป็นต้น
• ดัชนีหุ้นฮ่องกง : HSI50 หรือชื่อเต็มคือ Hong Kong HSI50 เป็นดัชนีที่ได้รวบรวมบริษัทแนวหน้าของฮ่องกงเอาไว้ 50 แห่ง โดยประเมินตามมูลลค่าในตลาดหลักทรัพย์ท้องตลาดของฮ่องกง

นอกจากนี้ยังมีดัชนีหุ้นที่น่าสนใจอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น ดัชนีหุ้นสวิส SMI20, ดัชนีหุ้นสวีเดน OMXS30, ดัชนีหุ้นสเปน Ibex35, ดัชนีหุ้นโปรตุเกส PSI 20, ดัชนีหุ้นนอร์เวย์ OBX25, ดัชนีหุ้นลักเซมเบิร์ก LuxX, ดัชนีหุ้นอิตาลี FTSE MIB, ดัชนีหุ้นไอริช ISEQ, ดัชนีหุ้นฟินแลนด์ OMXH25, ดัชนีหุ้นดัตช์ AEX25, ดัชนีหุ้นเดนมาร์ก KFX, ดัชนีหุ้นกรีก Athex20, ดัชนีหุ้นเบลเยียม The BEL20 เป็นต้น

ถ้าคุณอยากเทรดหุ้นแบบคนอื่นบ้าง ก็แค่เปิดโบรกเกอร์เข้าไปใช้บริการเทรดได้เลย โดยสามารถศึกษาการลงทุนได้บนเว็บ หรือจะทดลองใช้บริการฟรีบนเว็บก่อนก็ได้ แนะนำว่าให้ศึกษาตัวย่อของหุ้นแต่ละรายการให้ละเอียด จากนั้นก็เริ่มลงทุนได้ทันที ซึ่งเราควรเลือก Platform การเทรดที่ดีที่สุดเท่านั้น สำหรับการเทรดแบบออนไลน์หลาย ๆ คนก็ใช้ MetaTrader4 (MT4)  และ MT5 ซึ่งจะทำให้คุณเข้าถึงการลงทุนทางการเงินอย่างหลากหลายได้ทั้งหมด

แพลตฟอร์มการเทรด MetaTrader 4

บริการการเทรดแบบครบวงจร ทดลองใช้ได้เลยทันทีเทรดออนไลน์ สะดวกสบายที่สุด