Trading System คืออะไร เรียนรู้ระบบเทรด Forex พื้นฐาน

Published on June 11, 2024

Trading System เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่จะช่วยให้นักเทรดประสบความสำเร็จในการเทรด Forex ในบทความนี้ เราจะมาทำความเข้าใจถึงความหมาย องค์ประกอบ ประเภท ขั้นตอนการพัฒนา รวมถึงข้อดีและข้อจำกัดของ Trading System Forex กัน

 

ความหมายของ Trading System Forex

Trading System หมายถึง ชุดของกฎและเงื่อนไขที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างชัดเจน เพื่อใช้ในการตัดสินใจเข้าและออกจากตลาด โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคหรือปัจจัยพื้นฐาน Trading System จะช่วยให้นักเทรดมีแนวทางในการเทรดที่เป็นระบบ และลดการตัดสินใจที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์

ความสำคัญของ Trading System ในการเทรด Forex

การมี Trading System ที่ดีนั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งในการเทรด Forex เพราะจะช่วยให้นักเทรดมีวินัยในการเทรดมากขึ้น ลดความผิดพลาดจากการใช้อารมณ์ในการตัดสินใจ อีกทั้งยังช่วยให้สามารถวิเคราะห์และปรับปรุงผลการเทรดได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาทักษะและความสำเร็จในระยะยาว

 

องค์ประกอบสำคัญของ Trading System

องค์ประกอบสำคัญของ Trading System

Trading System Forex ที่ดีควรประกอบไปด้วยองค์ประกอบหลักๆ ดังต่อไปนี้

กฎการเข้าเทรด (Entry Rules)

  • การกำหนดสัญญาณการเข้าเทรด: เป็นการระบุเงื่อนไขที่ชัดเจนว่าเมื่อใดควรเปิดสถานะเข้าเทรด เช่น เมื่อราคาผ่านเส้นค่าเฉลี่ย หรือเมื่อเกิดสัญญาณจากตัวชี้วัดทางเทคนิค
  • การยืนยันสัญญาณการเข้าเทรด: เป็นการใช้ปัจจัยอื่นๆ เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือของสัญญาณการเข้าเทรด เช่น การดูปริมาณการซื้อขาย หรือการรอให้ราคาปิดเหนือหรือต่ำกว่าระดับสำคัญ

กฎการออกจากเทรด (Exit Rules)

  • การกำหนดจุดทำกำไร (Take Profit): เป็นการระบุระดับราคาที่เราจะปิดสถานะเพื่อทำกำไร โดยอาจอิงจากแนวรับแนวต้าน หรือตัวคูณของ Average True Range (ATR)
  • การกำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss): เป็นการระบุระดับราคาสูงสุดที่ยอมให้ขาดทุนได้ เพื่อป้องกันความเสียหายที่มากเกินไป โดยมักจะวางอยู่หลังแนวรับแนวต้านสำคัญ

 

 

การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

  • การกำหนดขนาดลอต (Position Sizing): เป็นการกำหนดปริมาณเงินที่ใช้ในการเทรดแต่ละครั้ง โดยพิจารณาจากความเสี่ยงที่ยอมรับได้และเปอร์เซ็นต์การขาดทุนสูงสุดต่อการเทรด 1 ครั้ง
  • การกำหนดอัตราส่วนผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Risk-Reward Ratio): เป็นการกำหนดสัดส่วนระหว่างผลกำไรที่คาดหวังกับความเสี่ยงที่ยอมรับได้ในแต่ละเทรด โดยทั่วไปนิยมใช้อัตราส่วน 1:2 หรือ 1:3

กฎการจัดการเงินทุน (Money Management Rules)

  • การกำหนดเปอร์เซ็นต์ความเสี่ยงต่อเงินทุน: เป็นการกำหนดสัดส่วนของเงินทุนทั้งหมดที่ยอมรับความเสี่ยงได้ในแต่ละเทรด ซึ่งโดยทั่วไปไม่ควรเกิน 1-2% ของเงินทุนทั้งหมด
  • การกำหนดจำนวนการเทรดสูงสุดต่อวัน/สัปดาห์: เป็นการจำกัดจำนวนครั้งในการเทรดต่อวันหรือต่อสัปดาห์ เพื่อป้องกันการเทรดมากเกินไปจนขาดสติ

 

ประเภทของ Trading System ในการเทรด Forex

Trading System สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ขึ้นอยู่กับหลักการและปัจจัยที่ใช้ในการวิเคราะห์ ซึ่งระบบเทรดยอดนิยมมีดังนี้

 

ประเภทของ Trading System

 

ระบบเทรดแบบ Trend Following

  • หลักการของระบบเทรดแบบ Trend Following: เป็นการเทรดตามทิศทางของกราฟในภาพรวม โดยมองหาสัญญาณการเกิดขาขึ้นหรือขาลงใหม่ แล้วเข้าเทรดไปในทิศทางนั้น
  • ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดแบบ Trend Following: การใช้ Moving Average 2 เส้นที่มีค่าต่างกัน เมื่อเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้นตัดข้ามเส้นระยะยาวขึ้นไปก็ให้เปิดสถานะซื้อ และเมื่อตัดลงมาก็ปิดสถานะ

ระบบเทรดแบบ Mean Reversion

  • หลักการของระบบเทรดแบบ Mean Reversion: เป็นการเทรดโดยคาดการณ์ว่าราคาที่เบี่ยงเบนออกไปมากๆ จากค่าเฉลี่ย มักจะย้อนกลับเข้าสู่ค่าเฉลี่ยเสมอ จึงเข้าเทรดสวนทางเพื่อรอทำกำไรเมื่อราคาย้อนกลับ
  • ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดแบบ Mean Reversion: การใช้ Bollinger Bands ที่มีค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน 2 เท่าจากค่าเฉลี่ย เมื่อราคาแตะแนว Upper Band ก็เปิดสถานะขาย และเมื่อแตะ Lower Band ก็เปิดสถานะซื้อ

ระบบเทรดแบบ Breakout

  • หลักการของระบบเทรดแบบ Breakout: เป็นการเทรดโดยรอให้ราคาสามารถผ่านแนวรับแนวต้านสำคัญไปได้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงการเกิดแนวโน้มใหม่
  • ตัวอย่างกลยุทธ์การเทรดแบบ Breakout: การใช้ Donchian Channel ที่กำหนดแนวรับแนวต้านจากจุดสูงสุดและต่ำสุดในช่วง 20 วันที่ผ่านมา เมื่อราคาปิดเหนือแนวต้านก็เปิดสถานะซื้อ และเมื่อต่ำกว่าแนวรับก็เปิดสถานะขาย

 

ขั้นตอนการพัฒนา Trading System Forex

การพัฒนา Trading System ที่มีประสิทธิภาพ จำเป็นต้องอาศัยการทดสอบและปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง โดยมีขั้นตอนดังนี้

การกำหนดวัตถุประสงค์และความคาดหวังจากระบบเทรด

ในขั้นตอนแรก เราต้องกำหนดให้ชัดเจนว่าต้องการผลตอบแทนเท่าไร ภายใต้ความเสี่ยงระดับใด เช่น ต้องการกำไร 20% ต่อปี โดยยอมรับการขาดทุนสูงสุด 10% ของเงินทุน เป็นต้น ซึ่งจะเป็นเป้าหมายหลักในการพัฒนาระบบเทรด

การเลือกปัจจัยและตัวชี้วัดที่ใช้ในระบบเทรด

เมื่อรู้เป้าหมายแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการเลือกปัจจัยและตัวชี้วัดต่างๆ ที่จะนำมาใช้วิเคราะห์ในระบบเทรด ซึ่งอาจเป็นค่าทางเทคนิคต่างๆ เช่น ค่าเฉลี่ย, RSI, Stochastic หรือแม้แต่ปัจจัยพื้นฐานเช่น การวิเคราะห์ Intermarket เป็นต้น

การทดสอบย้อนหลัง (Backtesting)

  • ความสำคัญของการทดสอบย้อนหลัง: การทดสอบระบบเทรดกับข้อมูลในอดีต มีความสำคัญอย่างมากในการประเมินว่าระบบนั้นให้ผลลัพธ์เป็นอย่างไรในแต่ละสภาวะตลาด เช่น ตลาดขาขึ้น, ขาลง หรือตลาดไซด์เวย์ ซึ่งจะบ่งบอกถึงแนวโน้มความสำเร็จในอนาคต
  • ขั้นตอนการทดสอบย้อนหลัง: ทดสอบย้อนหลังเริ่มจากการนำชุดข้อมูลราคาในอดีตที่ครอบคลุมหลายสภาวะตลาด มาทำการจำลองการเทรดตามกฎของระบบที่วางไว้ จากนั้นจึงบันทึกผลลัพธ์ของการเทรดแต่ละครั้ง ไม่ว่าจะเป็นกำไรหรือขาดทุน

การปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของระบบเทรด

  • การวิเคราะห์ผลการทดสอบย้อนหลัง: เมื่อได้ผลการทดสอบย้อนหลังแล้ว ให้นำมาคำนวณอัตราส่วนที่สำคัญ เช่น อัตรากำไรต่อการขาดทุน (Profit Factor), อัตราชนะเทรด (Win Rate), อัตราผลตอบแทนต่อความเสี่ยง (Risk-Reward Ratio) แล้วนำมาเทียบกับวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้
  • การปรับพารามิเตอร์ของระบบเทรด: หากผลลัพธ์ยังไม่เป็นไปตามเป้าหมาย อาจต้องมีการปรับเปลี่ยนค่าพารามิเตอร์บางอย่างของระบบ เช่น ค่าเฉลี่ยที่ใช้ค่า Overbought/Oversold ของ Oscillator, ระยะของ Stop Loss เป็นต้น แล้วทำการทดสอบซ้ำจนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่น่าพอใจ โดยอาจใช้เทคนิค Optimization เพื่อช่วยหาค่าพารามิเตอร์ที่เหมาะสมที่สุด

 

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

crossmenu