Prop trade หรือ Proprietary trading หมายถึง รูปแบบการเทรดที่นักเทรดใช้เงินทุนของบริษัทในการซื้อขายหลักทรัพย์หรือตราสารทางการเงินเพื่อแสวงหากำไร นักเทรดจะได้รับส่วนแบ่งจากกำไรที่ทำได้ตามข้อตกลงกับบริษัท Prop trade มีจุดมุ่งหมายเพื่อสร้างรายได้จากการเก็งกำไรในตลาดโดยตรง แตกต่างจากรูปแบบอื่นๆ เช่น การเป็นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์หรือการให้บริการที่ปรึกษาการลงทุน
เริ่มต้นกับ Prop Trading
เพื่อเริ่มต้นสู่เส้นทางการเป็น prop trader มีขั้นตอนสำคัญที่ควรเตรียมพร้อม ดังนี้
ศึกษาเกี่ยวกับตลาดการเงินและการเทรด เช่น ฟอเร็กซ์ หุ้น สัญญาซื้อขายล่วงหน้า รวมถึงปัจจัยพื้นฐานและเทคนิคที่ใช้ในการวิเคราะห์
ฝึกฝนทักษะด้วยบัญชีเทรดจำลอง (demo account) เพื่อเรียนรู้วิธีใช้แพลตฟอร์มเทรด สร้างกลยุทธ์ และทดสอบแผนการเทรดของตัวเอง
พัฒนาทักษะด้านการจัดการความเสี่ยงและจิตวิทยาการเทรด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการประสบความสำเร็จ
สมัครเข้าโปรแกรมฝึกอบรม prop trader ของบริษัทต่างๆ สาธิตทักษะของตนเองในการสอบ และผ่านการคัดเลือกเข้าทำงาน
หมั่นอัปเดตความรู้อยู่เสมอ ทั้งในด้านการวิเคราะห์ตลาด กลยุทธ์การเทรด รวมถึงเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อก้าวทันการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในแวดวงการเทรด
ความแตกต่างระหว่าง Prop trade กับการเทรดประเภทอื่น
ความแตกต่างหลักๆ ระหว่าง Prop tradeกับการเทรดแบบอื่นมีดังนี้
การใช้เงินทุน: Prop trader ใช้เงินทุนของบริษัท ในขณะที่นักเทรดรายย่อยทั่วไปใช้เงินของตัวเอง
การแบ่งผลกำไร: Prop trader ได้รับส่วนแบ่งจากกำไรที่ทำได้ ในขณะที่นักเทรดรายย่อยได้รับผลกำไรทั้งหมด
การวิเคราะห์: Prop trader มักใช้เทคนิคการเทรดที่ซับซ้อนและมีเครื่องมือวิเคราะห์ที่หลากหลาย
การฝึกอบรม: Prop trader ได้รับการสนับสนุนและให้คำแนะนำจากบริษัทในการพัฒนาทักษะ
กลยุทธ์การเทรดใน Prop Trading
ในการทำงานเป็น Prop Trader จำเป็นต้องมีกลยุทธ์การเทรดที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างผลกำไรอย่างสม่ำเสมอให้กับบริษัท กลยุทธ์ยอดนิยมสำหรับ Prop Trader มีอยู่หลากหลาย ขึ้นอยู่กับสไตล์การเทรดและสินทรัพย์ที่เลือกลงทุน
กลยุทธ์ Day Trading สำหรับ Prop Trader
Day Trading เป็นกลยุทธ์ที่เน้นการเปิดและปิดสถานะภายในวันเดียว โดยมุ่งหวังกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น Day Trader จะวิเคราะห์กราฟเทคนิคและอ่านข่าวหรือปัจจัยพื้นฐานเพื่อคาดการณ์ทิศทางตลาด กลยุทธ์ Day Trading ที่นิยมใช้ ได้แก่
Scalping : การเปิดสถานะเป็นจำนวนมากและปิดอย่างรวดเร็วเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างราคาเล็กๆ
Momentum Trading : การเข้าซื้อเมื่อราคาพุ่งสูงขึ้น และขายทันทีเมื่อราคาเริ่มลดลง โดยอาศัยแรงเหวี่ยงของราคา
Breakout Trading : รอจังหวะราคาทะลุแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญ แล้วเข้าไปในทิศทางของการทะลุนั้น
News Trading: เทรดตามปฏิกิริยาของตลาดที่มีต่อการประกาศข่าว โดยคาดการณ์ทิศทางก่อนที่ราคาจะเคลื่อนไหว
ข้อดีของ Day Trading คือสามารถทำกำไรได้ในตลาดที่มีความผันผวนและมีสภาพคล่องสูง แต่ก็มีความเสี่ยงจากการใช้เลเวอเรจ และความเครียดจากการตัดสินใจอย่างรวดเร็ว
กลยุทธ์ Swing Trading สำหรับ Prop Trader
Swing Trading เป็นกลยุทธ์ที่ถือสถานะข้ามคืน โดยมุ่งหวังกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะกลาง Swing Trader จะวิเคราะห์แนวโน้มของราคาบนกรอบเวลาใหญ่กว่า Day Trading และอาจถือสถานะเป็นวันหรือเป็นสัปดาห์ กลยุทธ์ Swing Trading ยอดนิยม ได้แก่
Trend Following : การเข้าสถานะไปในทิศทางของเทรนด์ โดยรอจังหวะที่ราคาย่อตัวลงมาแตะแนวรับหรือแนวต้านแล้วดีดกลับไปในทิศทางของเทรนด์
Counter-Trend Trading: การเทรดสวนทางเทรนด์เพื่อคาดการณ์จุดกลับตัว โดยรอสัญญาณของการหมดแรงซื้อหรือแรงขายที่ระดับราคาสำคัญ
Breakout Trading: คล้ายกับ Day Trading แต่รอการทะลุในกรอบเวลาใหญ่ขึ้น เช่น กรอบเวลารายวันหรือรายสัปดาห์
Chart Pattern Trading : เทรดตามรูปแบบกราฟที่เป็นสัญญาณกลับตัวหรือสัญญาณเทรนด์ เช่น Double Top , Head and Shoulders , Ascending Triangle เป็นต้น
ข้อดีของ Swing Trading คือมีเวลาในการวิเคราะห์มากกว่าและไม่จำเป็นต้องเฝ้าหน้าจอตลอดเวลา แต่ก็มีความเสี่ยงจากความผันผวนข้ามคืน, ข่าวสำคัญ หรือช่องว่างราคา (gap) ในตลาด
ข้อดีและข้อเสียของ Prop Trading
ข้อดีของ Prop trading
ไม่ต้องใช้เงินทุนของตัวเองในการเทรด
มีโอกาสสร้างรายได้มากขึ้นจากส่วนแบ่งกำไร
ได้รับการสนับสนุนทรัพยากรและเครื่องมือคุณภาพสูงจากบริษัท
มีโอกาสเรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญและพัฒนาทักษะอย่างรวดเร็ว
ข้อเสียของ Prop trading
มีแรงกดดันในการทำกำไรสูง เนื่องจากต้องแข่งขันภายในบริษัท
การแบ่งผลกำไรอาจน้อยกว่าการเทรดด้วยเงินของตนเอง
ไม่มีอิสระในการเลือกสินทรัพย์หรือกลยุทธ์การเทรดเอง
การคัดเลือกเข้าทำงานในบริษัท Prop trade มีการแข่งขันสูง
สิ่งสำคัญคือ Prop Trader ต้องเลือกใช้กลยุทธ์ที่เหมาะกับบุคลิกและความถนัดของตนเอง รวมถึงปรับให้เข้ากับสภาวะตลาดและนโยบายของบริษัทด้วย การพัฒนาวินัยในการปฏิบัติตามกลยุทธ์อย่างเคร่งครัด เป็นปัจจัยสู่ความสำเร็จในการสร้างผลกำไรอย่างสม่ำเสมอในฐานะ Prop Trader