วิเคราะห์ Forex

การเทรดในตลาด Forex ต้องอาศัยเทคนิคและกลยุทธ์ที่หลากหลายเพื่อให้ประสบความสำเร็จ หนึ่งในเทคนิคที่นักเทรดมืออาชีพนิยมใช้คือการเทรดแบบ Multi-Timeframe ซึ่งเป็นการวิเคราะห์และทำการตัดสินใจซื้อขายโดยใช้กรอบเวลาหลายช่วงเวลา ในบทความนี้เราจะมาเรียนรู้เกี่ยวกับเทคนิคการเทรด Multi-Timeframe ตั้งแต่การทำความเข้าใจพื้นฐานจนถึงการประยุกต์ใช้ในกลยุทธ์การเทรด Forex   Multi-Timeframe คืออะไร และทำไมต้องใช้ในการเทรด Multi-Timeframe คืออะไร Multi-Timeframe หมายถึงการวิเคราะห์และติดตามการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์โดยใช้กรอบเวลาหลายช่วงเวลา การใช้กรอบเวลาหลายช่วงช่วยให้นักเทรดสามารถเห็นภาพรวมของตลาดได้ชัดเจนยิ่งขึ้น ทั้งแนวโน้มหลัก (Long-term Trend) และแนวโน้มย่อย (Short-term Trend) ซึ่งช่วยให้การตัดสินใจซื้อขายมีความแม่นยำมากขึ้น ทำไมต้องใช้ Multi-Timeframe การใช้ Multi-Timeframe ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุแนวโน้มและจุดกลับตัวของตลาดได้ดีกว่าการใช้กรอบเวลาเดียว การวิเคราะห์หลายกรอบเวลาเป็นเครื่องมือที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการตัดสินใจซื้อขายที่ผิดพลาดและเพิ่มโอกาสในการทำกำไร การเลือกกรอบเวลาในการเทรด Multi-Timeframe การเลือกกรอบเวลาหลัก (Primary Timeframe) กรอบเวลาหลัก (Primary Timeframe) เป็นกรอบเวลาที่นักเทรดใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มหลักของตลาด กรอบเวลานี้มักเป็นกรอบเวลาที่ใหญ่กว่า เช่น รายวัน (Daily) รายสัปดาห์ (Weekly) หรือรายเดือน (Monthly) การใช้กรอบเวลาหลักช่วยให้นักเทรดสามารถระบุแนวโน้มหลักและแนวรับแนวต้านที่สำคัญได้ การเลือกกรอบเวลาย่อย (Secondary Timeframe) กรอบเวลาย่อย (Secondary […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 19, 2024

การเทรดในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบ (Range-Bound Markets) เป็นเทคนิคที่นิยมในหมู่นักเทรดที่ชื่นชอบการใช้ประโยชน์จากความผันผวนที่คงที่ของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาหนึ่ง ตลาดเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นเมื่อไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนและราคาสินทรัพย์มีการเคลื่อนไหวภายในกรอบที่กำหนด บทความนี้จะกล่าวถึงเทคนิคการเทรดในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบอย่างละเอียด เพื่อให้นักเทรดสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ     การเข้าใจตลาด Forex ที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบ Range-Bound Markets Range-Bound Markets คืออะไร ตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบ ตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบคือภาวะที่ราคาของสินทรัพย์มีการแกว่งตัวภายในช่วงราคาที่กำหนดอย่างชัดเจน โดยไม่มีแนวโน้มที่ชัดเจนไปทางใดทางหนึ่ง นักเทรดสามารถระบุกรอบนี้ได้จากการวิเคราะห์กราฟราคาและดูการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นซ้ำๆ ระหว่างแนวรับและแนวต้าน การระบุกรอบการเคลื่อนไหว Range-Bound Markets การระบุกรอบการเคลื่อนไหวเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการเทรดในตลาดประเภทนี้ นักเทรดสามารถใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น เส้นแนวรับ (Support Line) และเส้นแนวต้าน (Resistance Line) เพื่อกำหนดกรอบการเคลื่อนไหวของราคา เมื่อระบุกรอบได้แล้ว นักเทรดจะสามารถกำหนดจุดเข้าและจุดออกของการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพ     เทคนิคการเทรดในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบ Range-Bound Markets การเทรดตามแนวรับและแนวต้าน หนึ่งในเทคนิคที่ใช้บ่อยในการเทรดในตลาดที่มีการเคลื่อนไหวในกรอบคือการเทรดตามแนวรับและแนวต้าน นักเทรดจะทำการซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาลดลงถึงแนวรับ และขายสินทรัพย์เมื่อราคาขึ้นไปถึงแนวต้าน การใช้เทคนิคนี้ต้องอาศัยการสังเกตการเคลื่อนไหวของราคาอย่างใกล้ชิดและมีการตั้งค่าคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss Order) อย่างรอบคอบ การใช้ Oscillators ในการเทรด Oscillators เช่น […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 18, 2024

Order Flow เป็นเทคนิคการวิเคราะห์ตลาดที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างมากในหมู่นักเทรดมืออาชีพ เนื่องจากให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้เล่นในตลาดและแรงกดดันของราคาในเวลาจริง บทความนี้จะอธิบายถึงการใช้ Order Flow ในการเทรดอย่างละเอียด     ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Order Flow อย่างละเอียด Order Flow คือการวิเคราะห์การไหลเวียนของคำสั่งซื้อขายในตลาด โดยมุ่งเน้นที่ปริมาณและทิศทางของคำสั่งซื้อขายในแต่ละระดับราคา ความสำคัญของ Order Flow อยู่ที่ความสามารถในการแสดงให้เห็นถึงแรงซื้อและแรงขายที่แท้จริงในตลาด ซึ่งอาจไม่สามารถมองเห็นได้จากกราฟราคาทั่วไป ความแตกต่างหลักระหว่าง Order Flow และการวิเคราะห์ทางเทคนิคทั่วไปคือ Order Flow เน้นที่ข้อมูลในระดับ Micro ของตลาด แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวของคำสั่งซื้อขายในแต่ละวินาที ในขณะที่การวิเคราะห์ทางเทคนิคทั่วไปมักเน้นที่รูปแบบราคาและ Indicator ที่คำนวณจากข้อมูลราคาในอดีต ประโยชน์ของการใช้ Order Flow ในการเทรดมีหลายประการ เช่น ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุจุดเข้าเทรดที่แม่นยำมากขึ้น เห็นแรงซื้อขายที่แท้จริงในตลาด และสามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้นได้ดีขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการยืนยันสัญญาณจากการวิเคราะห์ทางเทคนิค อื่นๆ   Order Flow มีองค์ประกอบพื้นฐานอะไรบ้าง? Market Depth และ Order Book […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 17, 2024

ตลาด Forex หรือการแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ เป็นหนึ่งในตลาดการเงินที่มีการเคลื่อนไหวและการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วที่สุดในโลก ด้วยการเชื่อมโยงของเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงในแนวโน้มทางเศรษฐกิจ ทำให้ตลาด Forex ต้องพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง การใช้ Seasonality หรือภาวะฤดูกาล เป็นเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่สามารถช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรและลดความเสี่ยงในการเทรดได้   วิเคราะห์ Seasonality ในตลาด Forex คืออะไร Seasonality คืออะไร Seasonality หมายถึงรูปแบบและแนวโน้มที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาที่กำหนดในปี ซึ่งมีผลกระทบต่อการเคลื่อนไหวของราคาสินทรัพย์ต่าง ๆ รวมถึงการเทรดในตลาด Forex การเข้าใจ Seasonality ช่วยให้นักเทรดสามารถระบุช่วงเวลาที่มีโอกาสสูงในการทำกำไร ตัวอย่างการวิเคราะห์ Seasonality ตัวอย่างเช่น ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) มักมีแนวโน้มแข็งค่าในช่วงสิ้นปีเนื่องจากการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นในตลาดหุ้นและการโอนเงินกลับประเทศของบริษัทต่าง ๆ การวิเคราะห์ข้อมูลประวัติศาสตร์ของราคาสินทรัพย์ในช่วงเวลาต่าง ๆ ของปีช่วยให้นักเทรดสามารถระบุแนวโน้มเหล่านี้ได้     การใช้เครื่องมือและข้อมูลในการวิเคราะห์ Seasonality โปรแกรมการวิเคราะห์กราฟ การใช้โปรแกรมการวิเคราะห์กราฟและซอฟต์แวร์การเทรดที่มีฟังก์ชันการวิเคราะห์ Seasonality ช่วยให้นักเทรดสามารถดูแนวโน้มและรูปแบบที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาต่าง ๆ การศึกษาและการวิเคราะห์ข้อมูลประวัติศาสตร์ของราคาสินทรัพย์เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้สามารถระบุ Seasonality ได้อย่างแม่นยำ แหล่งข้อมูลและการศึกษา การใช้แหล่งข้อมูลที่หลากหลาย เช่น ข้อมูลทางเศรษฐกิจ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 16, 2024

การเทรดแบบ Contrarian เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่ตรงข้ามกับแนวโน้มของตลาดหรือความเชื่อที่เป็นที่นิยมในช่วงเวลาหนึ่ง ผู้ที่ใช้กลยุทธ์นี้เชื่อว่าตลาดมักมีการตอบสนองเกินจริงต่อข่าวสารหรือเหตุการณ์ต่าง ๆ ทำให้เกิดโอกาสในการซื้อขายที่ดีขึ้น การเทรดแบบ Contrarian ต้องอาศัยความรู้ความเข้าใจและความมั่นใจในตัวเองสูง เนื่องจากต้องท้าทายความเชื่อที่แพร่หลายของตลาด มาดูกันว่าเทคนิคการเทรด Contrarian คืออะไรและมีวิธีการอย่างไร     หลักการพื้นฐานของการเทรด Contrarian การเทรดแบบ Contrarian เน้นการซื้อขายตรงข้ามกับแนวโน้มหลักของตลาด ตัวอย่างเช่น เมื่อราคาสินทรัพย์ขึ้นสูงถึงจุดที่คาดว่าตลาดมีการซื้อเกินไป (Overbought) เทรดเดอร์ Contrarian จะขาย ในทางกลับกัน เมื่อราคาสินทรัพย์ตกลงถึงจุดที่คาดว่าตลาดมีการขายเกินไป (Oversold) เทรดเดอร์จะซื้อ หลักการนี้อิงจากความเชื่อที่ว่าตลาดมีความผันผวนและมีการเคลื่อนไหวเกินจริงในระยะสั้น แต่จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติในระยะยาว ศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Overbought และ Oversold   วิเคราะห์ทางเทคนิคในการเทรด Contrarian การวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นเครื่องมือสำคัญในการเทรดแบบ Contrarian เทรดเดอร์ใช้ดัชนีต่าง ๆ เช่น Relative Strength Index (RSI) และ Moving Average Convergence Divergence (MACD) เพื่อระบุสภาวะที่ตลาดมีการซื้อหรือขายเกินไป […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 15, 2024

Grid Trading เป็นกลยุทธ์การเทรดที่ได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่นักลงทุนและนักเทรด โดยเฉพาะในตลาด Forex และ Cryptocurrency เนื่องจากมีความสามารถในการทำกำไรในสภาวะตลาดที่หลากหลาย แต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงและความซับซ้อนที่ต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ก่อนนำไปใช้ บทความนี้จะอธิบายทุกแง่มุมของ Grid Trading อย่างละเอียด Grid Trading คือวิธีการเทรดที่ใช้การวางคำสั่งซื้อและขายล่วงหน้าในราคาที่กำหนดไว้เป็นระยะๆ เหมือนตาราง (Grid) โดยมีแนวคิดพื้นฐานว่าราคาของสินทรัพย์มักจะมีการเคลื่อนไหวขึ้นลงในช่วงราคาหนึ่ง การวางคำสั่งซื้อและขายเป็นระยะจะช่วยให้สามารถทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในทุกทิศทาง     ความแตกต่างหลักระหว่าง Grid Trading กับวิธีการเทรดแบบอื่นคือ การที่ไม่ต้องคาดเดาทิศทางของตลาด แต่เป็นการวางแผนรับมือกับทุกสถานการณ์ที่อาจเกิดขึ้น ไม่ว่าราคาจะขึ้น ลง หรืออยู่นิ่ง Grid Trading จึงเหมาะสำหรับตลาดที่มีความผันผวนแต่ไม่มีทิศทางชัดเจน   ความสำคัญของ Grid Trading ในการเทรดต่างๆ Grid Size คือระยะห่างระหว่างแต่ละคำสั่งซื้อขายใน Grid ซึ่งมักกำหนดเป็นเปอร์เซ็นต์หรือจำนวนพิพส์ (pips) การกำหนด Grid Size ที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับความผันผวนของสินทรัพย์ที่เทรด หากกำหนดระยะห่างน้อยเกินไปอาจทำให้เกิดการเทรดบ่อยเกินไปและเสียค่าธรรมเนียมมาก แต่หากห่างเกินไปก็อาจพลาดโอกาสในการทำกำไร จำนวน Grid และขอบเขตของ Grid […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 12, 2024

การวิเคราะห์กราฟเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถทำความเข้าใจและคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคาในตลาด Forex ได้อย่างแม่นยำ เทคนิคการวิเคราะห์กราฟนั้นแบ่งออกเป็นหลายรูปแบบ แต่ละแบบมีจุดเด่นและข้อดีของตัวเอง ในบทความนี้ เราจะมาดูเทคนิควิเคราะห์กราฟ Forex ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพที่สุด     การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) เป็นวิธีการที่ใช้ข้อมูลราคาและปริมาณการซื้อขายในอดีตเพื่อคาดการณ์แนวโน้มและพฤติกรรมของตลาดในอนาคต วิธีนี้มักจะใช้เครื่องมือทางเทคนิคและดัชนีต่าง ๆ เช่น แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance), เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), และรูปแบบกราฟ (Chart Patterns)     แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance) แนวรับและแนวต้าน (Support and Resistance) เป็นหนึ่งในเครื่องมือพื้นฐานที่ใช้ในการวิเคราะห์ทางเทคนิค แนวรับคือระดับราคาที่มีการซื้อเข้ามามากพอที่จะหยุดการตกของราคา ส่วนแนวต้านคือระดับราคาที่มีการขายเข้ามามากพอที่จะหยุดการขึ้นของราคา การระบุแนวรับและแนวต้านช่วยให้เทรดเดอร์สามารถตัดสินใจซื้อขายได้ในจุดที่เหมาะสม   เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages) เป็นอีกหนึ่งเครื่องมือที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในการวิเคราะห์ทางเทคนิค เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ช่วยในการดูแนวโน้มของตลาดโดยการคำนวณราคาปิดเฉลี่ยในช่วงเวลาหนึ่ง เทรดเดอร์สามารถใช้เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่แบบง่าย […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 11, 2024

การใช้ Elliott Wave ในการวิเคราะห์ฟอเร็กซ์เป็นเครื่องมือที่ได้รับความนิยมในหมู่นักเทรดที่ต้องการเข้าใจการเคลื่อนไหวของราคาตลาดในเชิงลึก ทฤษฎี Elliott Wave พัฒนาโดย Ralph Nelson Elliott ในทศวรรษที่ 1930 โดยอธิบายว่าตลาดเคลื่อนไหวตามรูปแบบคลื่นซ้ำๆ ที่เกิดขึ้นเนื่องจากจิตวิทยามวลชน   ประเภทของคลื่น Elliott Wave คลื่นขับเคลื่อนและคลื่นแก้ไข ทฤษฎีนี้แบ่งการเคลื่อนไหวของราคาออกเป็นคลื่นขาขึ้นและขาลงที่เรียกว่า "คลื่นขับเคลื่อน" (Impulse Waves) และ "คลื่นแก้ไข" (Corrective Waves) โดยคลื่นขับเคลื่อนประกอบด้วยห้าคลื่นและคลื่นแก้ไขประกอบด้วยสามคลื่น คลื่นขับเคลื่อนในทฤษฎีนี้หมายถึงการเคลื่อนที่ในทิศทางหลักของแนวโน้ม ขณะที่คลื่นแก้ไขหมายถึงการเคลื่อนที่ในทิศทางตรงข้ามกับแนวโน้มหลัก คลื่นขับเคลื่อน (Impulse Waves) คลื่นขับเคลื่อนในทฤษฎี Elliott Wave เป็นการเคลื่อนไหวที่สอดคล้องกับแนวโน้มหลักของตลาด ประกอบด้วยห้าคลื่นย่อยที่ระบุว่าเป็นคลื่น 1, 2, 3, 4, และ 5 คลื่นขับเคลื่อนนี้ทำให้แนวโน้มหลักดำเนินต่อไป คลื่นที่ 1, 3, และ 5 เป็นคลื่นที่เคลื่อนไปตามทิศทางของแนวโน้มหลัก ขณะที่คลื่นที่ 2 และ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 4, 2024

การเทรดฟอเร็กซ์เป็นการลงทุนที่มีความท้าทายและต้องใช้ความรู้ ความเข้าใจในตลาดเป็นอย่างมาก หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมในวงการเทรดเดอร์ระดับมืออาชีพคือการใช้รูปแบบ Harmonic Patterns ซึ่งเป็นการวิเคราะห์กราฟทางเทคนิคที่มีประสิทธิภาพในการคาดการณ์การเคลื่อนไหวของราคา ในบทความนี้ เราจะนำเสนอความรู้เกี่ยวกับ Harmonic Patterns และวิธีการใช้ในเทรดฟอเร็กซ์อย่างละเอียด     Harmonic Patterns คืออะไร? Harmonic Patterns เป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคที่ใช้ระบุจุดกลับตัวของราคาตลาดโดยอาศัยความสัมพันธ์ของ Fibonacci Ratios รูปแบบเหล่านี้ถูกค้นพบและพัฒนาขึ้นโดย H.M. Gartley และนักวิเคราะห์คนอื่น ๆ ที่นำหลักการ Fibonacci มาใช้ในการวิเคราะห์ตลาด Harmonic Patterns จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถระบุจุดเข้าซื้อขายที่มีโอกาสสูงที่จะเป็นจุดกลับตัวของราคาได้ Harmonic Patterns มีกี่ประเภท อะไรบ้าง? รูปแบบ Harmonic Patterns มีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะและการใช้งานที่แตกต่างกัน รูปแบบที่ได้รับความนิยมและมีความสำคัญได้แก่ Gartley Pattern, Bat Pattern, Butterfly Pattern และ Crab Pattern แต่ละรูปแบบจะมีการวัดสัดส่วนของ Fibonacci ที่แตกต่างกัน แต่ล้วนมุ่งเน้นที่การระบุจุดกลับตัวของราคา […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | July 3, 2024

ในโลกของการเทรด Forex ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความซับซ้อน การวิเคราะห์ Intermarket ได้กลายเป็นเครื่องมือที่มีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการความได้เปรียบในการคาดการณ์ทิศทางของตลาด บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมของการวิเคราะห์ Intermarket ตั้งแต่ความหมาย ความสำคัญ ไปจนถึงวิธีการประยุกต์ใช้ในการเทรด Forex     ทำไมนักเทรดต้องวิเคราะห์ Intermarket Intermarket คืออะไร การวิเคราะห์ Intermarket คือการศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างตลาดการเงินต่างๆ ที่มีความเชื่อมโยงกัน โดยมีแนวคิดพื้นฐานว่าการเปลี่ยนแปลงในตลาดหนึ่งสามารถส่งผลกระทบต่อตลาดอื่นๆ ได้ ทั้งในทางตรงและทางอ้อม ประโยชน์วิเคราะห์ Intermarket ประโยชน์ของการวิเคราะห์ Intermarket ในการเทรด Forex การวิเคราะห์ Intermarket ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถมองเห็นภาพรวมของตลาดการเงินโลกได้ชัดเจนขึ้น ทำให้สามารถคาดการณ์ทิศทางของค่าเงินได้แม่นยำมากขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยในการยืนยันสัญญาณการเทรดและลดความเสี่ยงในการตัดสินใจ ความสัมพันธ์ในการเงินโลก ความสัมพันธ์ระหว่างตลาดต่างๆ ในระบบการเงินโลก ตลาดการเงินโลกมีความเชื่อมโยงกันอย่างซับซ้อน ตั้งแต่ตลาดหุ้น ตลาดพันธบัตร ตลาดสินค้าโภคภัณฑ์ ไปจนถึงตลาด Forex การเข้าใจความสัมพันธ์เหล่านี้จะช่วยให้เทรดเดอร์สามารถวิเคราะห์และคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดได้ดียิ่งขึ้น   เครื่องมือและเทคนิคในการวิเคราะห์ Intermarket การใช้กราฟเปรียบเทียบ (Correlation Charts) กราฟเปรียบเทียบช่วยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างตลาดต่างๆ ได้ชัดเจนขึ้น โดยการแสดงการเคลื่อนไหวของสินทรัพย์หลายๆ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | June 28, 2024

การเทรดในตลาด Forex ต้องการกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพและการวิเคราะห์ที่แม่นยำเพื่อให้สามารถทำกำไรได้ หนึ่งในกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพมากที่สุดคือกลยุทธ์ Reversal หรือการกลับตัว กลยุทธ์นี้เน้นการระบุและใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา ซึ่งสามารถให้โอกาสในการเทรดที่ทำกำไรได้มากมาย บทความนี้จะอธิบายกลยุทธ์ Reversal อย่างละเอียด รวมถึงวิธีการใช้งาน การวิเคราะห์ และปัจจัยที่ต้องพิจารณาในการเทรด   ทำความเข้าใจกลยุทธ์ Reversal กลยุทธ์ Reversal ในการเทรด Forex เป็นวิธีการที่มุ่งเน้นการระบุจุดเปลี่ยนทิศทางของราคา โดยทั่วไปจะเกิดขึ้นเมื่อแนวโน้มขาขึ้นเปลี่ยนเป็นขาลง หรือแนวโน้มขาลงเปลี่ยนเป็นขาขึ้น การกลับตัวของราคาเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงในทิศทางของตลาด ซึ่งสามารถให้โอกาสในการเปิดสถานะใหม่ที่สามารถทำกำไรได้ สัญญาณการกลับตัวที่สำคัญของกลยุทธ์ Reversal การระบุสัญญาณการกลับตัวเป็นขั้นตอนสำคัญในการใช้กลยุทธ์ Reversal สัญญาณเหล่านี้มักเกิดจากการวิเคราะห์ทางเทคนิคและการใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น การวิเคราะห์รูปแบบกราฟ (Chart Patterns) การใช้ตัวชี้วัดทางเทคนิค (Technical Indicators) และการสังเกตพฤติกรรมราคา (Price Action) รูปแบบกราฟที่นิยมใช้ในกลยุทธ์ รูปแบบกราฟที่นิยมใช้ในการระบุการกลับตัวได้แก่ รูปแบบ Double Top และ Double Bottom, Head and Shoulders และ Inverse Head […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | June 26, 2024

Carry Trade คือ กลยุทธ์การลงทุนในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (Forex) ที่มุ่งเน้นการแสวงหาผลตอบแทนจากความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงิน โดยอาศัยหลักการกู้ยืมเงินในสกุลที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ แล้วนำเงินไปลงทุนในสกุลเงินที่ให้อัตราดอกเบี้ยสูงกว่า เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย   หลักการสำคัญของ Carry Trade หลักการสำคัญของ Carry Trade คือการกู้ยืมเงินในสกุลที่มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ (Low-yielding currency) จากนั้นนำเงินที่กู้มาแปลงเป็นสกุลเงินที่มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า (High-yielding currency) และนำไปลงทุนเพื่อรับผลตอบแทนจากส่วนต่างของอัตราดอกเบี้ย (Interest rate differential) นอกจากนี้ ยังสามารถทำกำไรเพิ่มเติมจากการเปลี่ยนแปลงของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสองสกุลเงินนั้นอีกด้วย ตัวอย่างของ Carry Trade สมมติให้สกุลเงินเยน (JPY) มีอัตราดอกเบี้ยต่ำ ในขณะที่สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) มีอัตราดอกเบี้ยสูงกว่า นักลงทุนอาจทำ Carry Trade โดยกู้ยืมเงินสกุลเยน แล้วนำไปแปลงเป็นสกุลดอลลาร์ออสเตรเลีย จากนั้นนำเงินดอลลาร์ออสเตรเลียไปลงทุนเพื่อรับดอกเบี้ยที่สูงกว่า พร้อมกับหวังผลกำไรจากการแข็งค่าของดอลลาร์ออสเตรเลียเมื่อเทียบกับเงินเยนในอนาคต   ปัจจัยใดบ้าง ที่มีผลต่อ Carry Trade? อัตราดอกเบี้ย ความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ยระหว่างสองสกุลเงินเป็นปัจจัยหลักที่ส่งผลต่อการทำ Carry Trade เนื่องจากเป็นตัวกำหนดผลตอบแทนหลักของกลยุทธ์นี้ การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยในประเทศใดประเทศหนึ่งจะส่งผลโดยตรงต่อความน่าสนใจและความเสี่ยงของการทำ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 29, 2024

Position Trading คือรูปแบบการเทรดที่มุ่งเน้นการถือครองสถานะการซื้อขายเป็นระยะเวลานาน ตั้งแต่หลายสัปดาห์ไปจนถึงหลายเดือนหรือหลายปี โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาในระยะยาว ซึ่งแตกต่างจากการเทรดระยะสั้นที่เน้นการเข้าและออกตลาดอย่างรวดเร็วเพื่อแสวงหากำไรจากความผันผวนของราคาในแต่ละวัน Position Trading จึงเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างผลตอบแทนอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการวิเคราะห์ปัจจัยระยะยาว มากกว่าการเก็งกำไรจากความผันผวนของตลาดในระยะสั้น   Position Trading ใช้เพื่ออะไร? การวิเคราะห์ทั้งปัจจัยพื้นฐานและทางเทคนิคด้วย Position Trade การทำ Position Trade ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐานอย่างรอบด้าน ทั้งในระดับเศรษฐกิจมหภาค ภาวะอุตสาหกรรม ไปจนถึงผลการดำเนินงานของบริษัท เพื่อประเมินมูลค่าที่แท้จริงและความสามารถในการสร้างผลกำไรระยะยาว ในขณะเดียวกัน การวิเคราะห์ทางเทคนิคก็มีส่วนช่วยในการจับจังหวะการเข้าและออกเทรด โดยอาศัยเครื่องมือต่างๆ ในการระบุแนวโน้มราคา แนวรับแนวต้าน หรือสัญญาณซื้อขายที่เหมาะสม ดังนั้น Position Trader จึงต้องผสมผสานข้อมูลทั้งเชิงคุณภาพและเชิงปริมาณเพื่อวางแผนการลงทุนอย่างรอบคอบ Position Trade ความสำคัญกับกรอบเวลาใหญ่ เนื่องจากมุ่งเน้นการถือครองระยะยาว Position Trading จึงให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์กราฟในกรอบเวลาที่ใหญ่ เช่น กราฟรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายไตรมาส เพื่อให้มองเห็นภาพรวมของราคาและแนวโน้มหลักที่ดำเนินไปในทิศทางเดียวกันระยะยาว ในขณะเดียวกันการวิเคราะห์กรอบเวลาใหญ่ก็ช่วยลดสัญญาณรบกวนจากความผันผวนในกรอบเวลาเล็ก เพราะเป้าหมายคือการจับทิศทางหลักของราคา ไม่ใช่การเก็งกำไรจากความผันผวนระยะสั้น ดังนั้นการกำหนดกรอบเวลาให้สอดคล้องกับเป้าหมายการลงทุนจึงเป็นหนึ่งในกุญแจสู่ความสำเร็จของ Position Trading การบริหารความเสี่ยงและเงินทุนอย่างมีวินัย แม้จะเป็นการลงทุนระยะยาว […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 23, 2024

Double Top เป็นรูปแบบกราฟที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาลงที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต โดยเกิดขึ้นเมื่อราคาขึ้นไปทดสอบระดับสูงสุดเดิมถึงสองครั้ง แต่ไม่สามารถผ่านระดับดังกล่าวไปได้ จากนั้นราคาจะปรับตัวลงมา ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการกลับตัวของแนวโน้มจากขาขึ้นเป็นขาลง โดยลักษณะสำคัญคือมีสองจุดยอดที่อยู่ในระดับใกล้เคียงกันและมีจุดต่ำสุดระหว่างสองจุดยอดนั้น การเกิด Double Top มักบ่งบอกถึงการสิ้นสุดของแนวโน้มขาขึ้นในระยะสั้นถึงระยะกลาง   รูปแบบ Double Top มีองค์ประกอบแบบไหนบ้าง จุดยอดแรก (First Peak) จุดยอดแรกเป็นจุดที่ราคาขึ้นไปถึงระดับสูงสุดหลังจากมีแนวโน้มขาขึ้นมาระยะหนึ่ง โดยแสดงถึงแรงซื้อที่เข้ามาในตลาดจนผลักดันราคาสูงขึ้น การระบุระดับราคาของจุดยอดแรกสามารถทำได้โดยการดูระดับสูงสุดของแท่งเทียนหรือบาร์ในช่วงเวลาที่กำหนด นอกจากระดับราคาแล้ว ปริมาณการซื้อขายที่จุดยอดแรกก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องพิจารณาด้วย โดยปริมาณการซื้อขายที่สูงอาจบ่งชี้ถึงแรงซื้อที่มากและอาจยังคงผลักดันราคาขึ้นต่อ จุดยอดที่สอง (Second Peak) หลังจากราคาปรับตัวลงมาจากจุดยอดแรก ถ้าราคาสามารถขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในระดับใกล้เคียงกับจุดยอดแรก จะถือเป็นจุดยอดที่สอง โดยจุดยอดที่สองไม่จำเป็นต้องสูงกว่าจุดแรกเสมอไป อาจเท่ากันหรือต่ำกว่าเล็กน้อยก็ได้ แต่ควรอยู่ในกรอบแนวต้านเดียวกับจุดยอดแรก การพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างจุดยอดสองจุด เช่น ระยะห่างของเวลาและระดับราคา จะช่วยยืนยันความน่าเชื่อถือของรูปแบบ Double Top ได้มากขึ้น จุดต่ำสุดระหว่างสองยอด (Trough) จุด Trough คือจุดต่ำสุดที่เกิดขึ้นในช่วงระหว่างจุดยอดทั้งสอง โดยเป็นจุดที่แสดงถึงแรงขายที่เข้ามากดดันราคาหลังจากแตะจุดยอดแรก ระดับของจุด Trough จะถูกนำมาใช้เป็นจุดอ้างอิงในการสร้างเส้น Neckline เพื่อคอยดูสัญญาณการยืนยันรูปแบบ Double Top […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 21, 2024

Ascending Triangle เป็นรูปแบบกราฟราคาที่บ่งชี้ถึงแนวโน้มขาขึ้นที่มีโอกาสเกิดขึ้นในอนาคต โดยลักษณะสำคัญของรูปแบบนี้ประกอบด้วยเส้นแนวต้านที่เป็นเส้นตรงในแนวราบ และเส้นแนวรับที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งราคามีการแกว่งตัวในช่วงแคบลง ก่อนจะเกิดการ Breakout ผ่านเส้นแนวต้านขึ้นไปในที่สุด ซึ่งถือเป็นสัญญาณบวกต่อการทะยานขึ้นของราคาในระยะข้างหน้า   รูปแบบกราฟ Ascending Triangle เส้นแนวต้าน (Resistance Line) ในการสร้างรูปแบบ Ascending Triangle ราคาจะเคลื่อนไหวขึ้นมาทดสอบแนวต้านที่ระดับราคาเดิม 2-3 ครั้ง โดยที่ไม่สามารถผ่านเส้นแนวต้านนี้ขึ้นไปได้ การกำหนดระดับของแนวต้านอาจใช้จุดสูงสุด 2-3 จุดที่อยู่ในระดับราคาใกล้เคียงกันมาลากเป็นเส้นตรงในแนวราบ ซึ่งบ่งบอกถึงแรงขายที่เข้ามาตั้งแต่ราคายังไม่สามารถผ่านจุดนี้ไปได้ และเป็นแนวต้านที่มีนัยยะสำคัญเมื่อสามารถ Breakout ขึ้นไปได้ในภายหลัง เส้นแนวรับ (Support Line) หลังจากการพยายาม Breakout แนวต้านแต่ไม่สำเร็จ ราคามักจะย่อตัวลงมาสร้างจุดต่ำ ซึ่งจุดต่ำของแต่ละครั้งมักจะอยู่ในระดับที่สูงขึ้นเรื่อยๆ การลากเส้นเชื่อมต่อระหว่างจุดต่ำเหล่านี้จะกลายเป็นเส้นแนวรับที่เอียงขึ้น ซึ่งบ่งบอกถึงแรงซื้อที่เข้ามาคอยประคองราคาไม่ให้ร่วงลงมากนัก โดยเส้นแนวรับที่ชันขึ้นมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งแสดงถึงแรงซื้อที่มีมากขึ้นเท่านั้น ส่งผลให้ราคาถูกดันให้ขยับตัวสูงขึ้นเข้าใกล้เส้นแนวต้านมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง การเคลื่อนไหวของราคาภายในรูปแบบ จุดสำคัญของการเกิด Ascending Triangle คือการที่จุดสูงสุดถูกจำกัดอยู่ในระดับเดิม แต่ขณะเดียวกันจุดต่ำสุดจะค่อยๆ ปรับตัวสูงขึ้นเรื่อยๆ ส่งผลให้ราคาเคลื่อนไหวในกรอบแคบลง ลักษณะเช่นนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงแรงซื้อที่มากขึ้น ขณะที่แรงขายเริ่มอ่อนแอลง […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 20, 2024

Head and Shoulders เป็นรูปแบบกราฟราคาที่มีลักษณะคล้ายกับศีรษะและไหล่ของมนุษย์ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในรูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มที่มีความน่าเชื่อถือสูงในการวิเคราะห์ทางเทคนิค โดยรูปแบบ Head and Shoulders แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลักๆ คือ Normal Head and Shoulders ซึ่งส่งสัญญาณการกลับตัวจากแนวโน้มขาขึ้นเป็นขาลง และ Inverse Head and Shoulders ที่ส่งสัญญาณการกลับตัวจากแนวโน้มขาลงเป็นขาขึ้น การเข้าใจและสามารถระบุรูปแบบ Head and Shoulders ได้อย่างถูกต้อง จะช่วยให้นักลงทุนสามารถคาดการณ์ทิศทางของราคาและวางแผนการเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น   สัญญาณที่บ่งบอกถึงรูปแบบ Head and Shoulders การปิดราคาต่ำกว่าเส้นคอ เมื่อกราฟราคาสามารถ Breakout ผ่านเส้นคอลงมาได้อย่างชัดเจน โดยเฉพาะการปิดราคาต่ำกว่าเส้นคอ มักจะเป็นสัญญาณที่แข็งแกร่งถึงการเริ่มต้นแนวโน้มขาลง และเป็นโอกาสในการเข้าเปิดสถานะขายเพื่อเทรดตามการคาดการณ์ อย่างไรก็ตาม ต้องระวังกับสัญญาณ Breakout หลอกที่ราคาอาจจะไม่ได้ลงต่อเนื่องหลังจากนั้น จึงควรใช้เครื่องมืออื่นๆ เข้ามาช่วยยืนยันเพิ่มเติมด้วย การย้อนกลับมาทดสอบเส้นคอ หลังจากราคาสามารถ Breakout ผ่านเส้นคอลงมาแล้ว สัญญาณของการกลับตัวมักจะชัดเจนขึ้นเมื่อราคามีการย้อนกลับขึ้นมาทดสอบเส้นคอจากด้านล่างอีกครั้ง การทดสอบซ้ำเส้นคอจะช่วยยืนยันว่าแนวโน้มขาลงกำลังอยู่ในช่วงเริ่มต้นและมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น ซึ่งจะเป็นจังหวะที่เหมาะสมในการพิจารณาเข้าสถานะขายตามเมื่อราคาปรับตัวลงต่ำกว่าเส้นคออีกครั้ง […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 16, 2024

Arbitrage Forex คือ การทำกำไรจากความแตกต่างของราคาระหว่างตลาดหรือโบรกเกอร์ต่างๆ โดยหลักการคือการซื้อในตลาดที่มีราคาถูกแล้วขายในตลาดที่มีราคาแพงกว่า เพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคาโดยปราศจากความเสี่ยง ซึ่งแตกต่างจากการ เทรด Forex ปกติที่ต้องอาศัยการวิเคราะห์และคาดการณ์ทิศทางของราคา แต่อาจมีความเสี่ยงจากความผันผวนของตลาด   ประเภทของ Arbitrage Forex Spatial Arbitrage เป็นการใช้ประโยชน์จากความแตกต่างของราคาในแต่ละโบรกเกอร์ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน ตัวอย่างเช่น ถ้ามีโบรกเกอร์ A ที่ให้ราคา EUR/USD ที่ 1.1000 และโบรกเกอร์ B ที่ให้ราคา 1.1005 เราสามารถซื้อที่ A และขายที่ B เพื่อทำกำไร 5 pips ได้ทันที อย่างไรก็ตาม การทำ Spatial Arbitrage อาจมีข้อจำกัดจากความเร็วในการส่งคำสั่ง และสภาพคล่องที่แตกต่างกันในแต่ละโบรกเกอร์ Triangular Arbitrage เป็นการอาศัยความไม่สมดุลของอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงิน 3 สกุล เช่น เราสามารถแปลงเงินจาก USD เป็น EUR แล้วเป็น GBP […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 14, 2024

Quantitative Trading หรือการเทรดเชิงปริมาณ เป็นวิธีการซื้อขายในตลาดการเงินโดยใช้แบบจำลองทางคณิตศาสตร์และคอมพิวเตอร์ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก เพื่อค้นหาโอกาสในการเทรดและบริหารความเสี่ยง ซึ่งแตกต่างจากการเทรดแบบใช้ดุลยพินิจหรือใช้การวิเคราะห์พื้นฐาน โดย Quantitative Trading มุ่งเน้นการใช้ข้อมูลเชิงสถิติและอัลกอริทึมในการตัดสินใจซื้อขาย ทำให้สามารถประมวลผลและดำเนินการได้รวดเร็วแม่นยำ จึงได้รับความนิยมและมีบทบาทสำคัญในตลาดการเงินปัจจุบันที่มีความซับซ้อนและผันผวนสูง   องค์ประกอบหลักของ Quantitative Trading การเก็บและจัดการข้อมูล ข้อมูลถือเป็นหัวใจสำคัญของ Quantitative Trading โดยต้องอาศัยข้อมูลมหาศาลจากหลายแหล่ง ทั้งข้อมูลราคา ปริมาณการซื้อขาย ข่าวสาร งบการเงิน ไปจนถึงข้อมูลเชิงเทคนิค จากนั้นต้องมีการจัดระเบียบและจัดเก็บอย่างเป็นระบบ เพื่อให้สามารถเรียกใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องมีกระบวนการกรองและทำความสะอาดข้อมูล เพื่อคัดเลือกเฉพาะข้อมูลที่มีคุณภาพและเกี่ยวข้องจริง ก่อนนำไปใช้พัฒนาโมเดลต่อไป การพัฒนาโมเดลการเทรด โมเดลการเทรดถือเป็นแกนหลักของ Quantitative Trading ซึ่งจะมีหลากหลายประเภททั้งแบบ Mean Reversion, Trend Following หรือ Machine Learning โดยต้องอาศัยการวิเคราะห์ข้อมูลในอดีต ค้นหารูปแบบและความสัมพันธ์ที่ซ่อนอยู่ แล้วนำมาสร้างเป็นกฎเกณฑ์และสมการทางคณิตศาสตร์ เพื่อใช้ทำนายแนวโน้มของราคาในอนาคต ซึ่งโมเดลที่ดีต้องผ่านการทดสอบกับข้อมูลย้อนหลังและข้อมูลจริง ปรับจูนให้มีประสิทธิภาพสูงสุด ก่อนนำไปใช้งานจริง     ระบบการซื้อขายอัตโนมัติ การซื้อขายแบบอัตโนมัติเป็นอีกปัจจัยสำคัญของ Quantitative Trading […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 13, 2024

Trend Following หรือการติดตามเทรนด์ เป็นกลยุทธ์การลงทุนที่มุ่งเน้นการซื้อสินทรัพย์เมื่อราคาเริ่มเคลื่อนไหวขึ้น และขายออกเมื่อราคาเริ่มลง โดยอาศัยสมมติฐานที่ว่า "เทรนด์มักจะดำเนินต่อไปในทิศทางเดิมมากกว่าจะกลับตัวไปในอีกทิศทาง" นักลงทุนจึงพยายามระบุทิศทางเทรนด์ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อแสวงหากำไรจากการเคลื่อนไหวนั้นให้ได้มากที่สุด ความสำคัญของการติดตามเทรนด์ในการลงทุน การปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับทิศทางของตลาดช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรและควบคุมความเสี่ยงได้ดีกว่าการเดาทิศทางหรือสวนกระแส ซึ่งหากเทรนด์ขาขึ้นเราก็ควรถือครองสินทรัพย์ต่อไปจนกว่าสัญญาณขาลงจะปรากฏ ส่วนในช่วงตลาดหมีเราก็ควรลดการถือครองหุ้นหรือเปิดสถานะขายชอร์ต เป็นต้น การติดตามเทรนด์จึงช่วยให้การตัดสินใจลงทุนมีหลักการมากขึ้น แทนที่จะใช้อารมณ์หรือคาดเดาตลาด   เทคนิคพิเศษในการเทรดแบบ Trend Following การเทรดแบบติดตามเทรนด์มีหลักการพื้นฐานคือ การเข้าซื้อเมื่อเทรนด์ขาขึ้นเริ่มต้นขึ้น และถือสถานะจนกว่าจะมีสัญญาณของการสิ้นสุดเทรนด์ ในทางตรงกันข้ามหากเป็นเทรนด์ขาลงก็จะเปิดสถานะขายและรอจนกว่าเทรนด์นั้นจะจบลง โดยมีกลยุทธ์ที่นิยมใช้ เช่น การเข้าซื้อเมื่อราคาทะลุผ่านจุดสูงสุดล่าสุด (Breakout) รอจนกว่าราคาจะสามารถปิดสูงกว่าจุดสูงสุดครั้งก่อนหน้าได้อย่างมีนัยสำคัญ ก็ถือเป็นการยืนยันการเริ่มต้นของเทรนด์ขาขึ้น หากราคาสามารถปิดต่ำกว่าจุดต่ำสุดเดิม ก็ถือเป็นสัญญาณเริ่มต้นของขาลง การเข้าซื้อเมื่อราคาผ่านจุด Breakout ช่วยให้มีโอกาสจับจังหวะได้แม่นยำ แต่ก็มีความเสี่ยงหากเกิดสัญญาณหลอก การถือสถานะจนกว่าเทรนด์จะสิ้นสุด เมื่อเปิดสถานะตามเทรนด์แล้ว ก็ควรถือต่อไปจนกว่าจะมีสัญญาณของการหมดแรงหรือกลับตัว สัญญาณจบเทรนด์ เช่น การทะลุเส้น Trend Line, การตัดลงของ Moving Averages, การเกิดรูปแบบกลับตัวในกราฟ เป็นต้น การถือสถานะนานๆ ช่วยให้มีโอกาสทำกำไรมากขึ้นตามความยาวของเทรนด์ แต่ต้องควบคุมความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นด้วย การใช้ Trailing Stop […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 10, 2024

Swing Trade คือกลยุทธ์การเทรดที่มุ่งเน้นการทำกำไรจากการแกว่งตัวของราคาในระยะสั้นถึงระยะกลาง โดยมักจะถือสถานะเป็นระยะเวลาตั้งแต่หลายชั่วโมงจนถึงหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ เพื่อรอจังหวะราคาเคลื่อนไหวไปในทิศทางที่คาดการณ์ไว้ จุดมุ่งหมายของ Swing Trade คือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงระยะสั้นของราคา แต่ไม่ได้คาดหวังผลตอบแทนจากการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่เหมือน Position Trade   ความแตกต่างระหว่าง Swing Trade กับ Day Trade และ Position Trade Day Trade มุ่งเน้นการเปิดและปิดสถานะภายในวันเดียว โดยหวังผลกำไรจากการเคลื่อนไหวเล็กๆของราคา Swing Trade ถือสถานะข้ามคืนเป็นระยะเวลาหลายวัน ถึง 1-2 สัปดาห์ เพื่อรอการแกว่งตัวของราคาในกรอบใหญ่ Position Trade มักถือสถานะเป็นระยะเวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน โดยรอจังหวะของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ตามเทรนด์ระยะยาว   วิธีการใช้งาน Swing Trade ยอดนิยม Swing Trade ตามเทรนด์ (Trend Following) เป็นการเปิดสถานะไปในทิศทางของเทรนด์ระยะกลางถึงระยะยาว โดยรอจังหวะที่ราคาย่อตัวมาที่แนวรับหรือ Trendline ก่อนจะกลับตัววิ่งขึ้นต่อ ก็เข้าซื้อและคาดหวังว่าราคาจะกลับไปได้ไกลกว่าจุดสูงสุดครั้งก่อนหน้า Swing Trade […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 9, 2024

Day Trade คือการซื้อขายหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์อื่นๆ โดยเปิดและปิดสถานะภายในวันทำการเดียวกัน ไม่มีการถือสถานะข้ามคืน เป้าหมายของ Day Trade คือการทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงราคาเล็กน้อยแต่บ่อยครั้งในระหว่างวัน โดยอาศัยการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลักในการหาจังหวะเข้าและออกตลาด   ปัจจัยสำคัญของการเทรดแบบ Day Trade การวิเคราะห์ทางเทคนิคใน Day Trade Day Trade ให้ความสำคัญกับการวิเคราะห์ทางเทคนิคมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะมุ่งเน้นการหากำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะสั้น โดยอาศัยการวิเคราะห์กราฟ, แนวรับแนวต้าน, รูปแบบราคา (Price Action) รวมถึงตัวชี้วัดทางเทคนิค เช่น ค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ (Moving Averages), ออสซิลเลเตอร์ต่างๆ เพื่อคาดการณ์ทิศทางการเคลื่อนไหวของราคาในอนาคตอันใกล้ การจัดการความเสี่ยงและเงินทุน การบริหารความเสี่ยงและการจัดสรรเงินทุนมีความสำคัญมากใน Day Trade เพราะการทำกำไรที่สม่ำเสมอมาจากการควบคุมความเสียหายในแต่ละครั้งให้น้อยที่สุด วิธีการจัดการความเสี่ยงใน Day Trade ได้แก่: การกำหนดเงินที่ยอมขาดทุนได้ในแต่ละวัน เช่น ไม่เกิน 1-2% ของพอร์ต การกำหนดจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ในระยะที่เหมาะสมเพื่อจำกัดความเสียหาย การทยอยเปิดสถานะทีละน้อยๆ ไม่ควรเปิดเต็มพอร์ตในครั้งเดียว การหลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่ตลาดผันผวนรุนแรงหรือมีสภาพคล่องต่ำ การเลือกหุ้นหรือสินทรัพย์ที่เหมาะสม […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | May 2, 2024

การเทรดคู่เงิน USD/JPY เป็นกิจกรรมที่มีความสำคัญอย่างมากในตลาดการเงินระหว่างประเทศ เนื่องจากคู่เงินนี้มีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มั่นคงระหว่างสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น สองประเทศที่มีอำนาจในเศรษฐกิจโลก การซื้อขายคู่เงินนี้มีความนิยมและมีปริมาณการซื้อขายที่สูง ซึ่งสร้างโอกาสในการทำกำไรและการลงทุนในตลาดนี้ และการเทรดคู่เงิน USD/JPY เป็นตัวบ่งชี้สำคัญของเศรษฐกิจโลก และส่วนใหญ่จะสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกาและประเทศญี่ปุ่น   ควรเทรดคู่เงิน USD/JPY ได้เมื่อไหร่ การหาโอกาสที่เหมาะสมและมีกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสม คุณสามารถเทรดคู่เงิน USD/JPY ในเวลาที่เหมาะสมได้โดยลดความเสี่ยงในการเทรดและเพิ่มโอกาสในการได้รับกำไรการเทรดคู่เงิน USD/JPY ควรทำเมื่อมีการวิเคราะห์ตลาดและกำหนดกลยุทธ์เทรดที่เหมาะสม ดังนี้: เมื่อมีแนวโน้มชัดเจน: เมื่อมีแนวโน้มที่ชัดเจนในตลาด USD/JPY โดยใช้เครื่องมือวิเคราะห์ทางเทคนิค และเทรนด์ไลน์ เช่น Moving Averages หรือ Trend Line เพื่อการตัดสินใจที่มั่นคง เมื่อมีข่าวสารส่งผลต่อ USD หรือ JPY: การประชุมของธนาคารกลาง, ข้อมูลการจ้างงาน, หรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่สำคัญสามารถสร้างความผันผวนในตลาด USD/JPY และเป็นโอกาสในการเทรด เมื่อมีการเกิดสัญญาณเทรด: สัญญาณเทรดที่เป็นผลมาจากการวิเคราะห์เทคนิคหรือเหตุการณ์ทางเศรษฐกิจที่ส่งผลต่อคู่เงิน USD/JPY เช่น การตัดสินใจของธนาคารกลางหรือการเปิดตลาดในทวิตเตอร์ เมื่อมีเทรนด์เทรดที่เหมาะสม: หากคุณมีกลยุทธ์การเทรดที่เหมาะสมสำหรับการเทรด USD/JPY และมีความมั่นใจในการเข้า-ออกตลาดตามกลยุทธ์ เมื่อมีความระมัดระวังและการจัดการความเสี่ยง: การเทรดคู่เงิน USD/JPY […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | April 25, 2024

GBP/USD หรือที่รู้จักกันในชื่อ "Cable" เป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมสูงสุดในตลาด Forex เนื่องจากสภาพคล่องที่สูงและความผันผวนที่เอื้อต่อการเทรดคู่สกุลเงินนี้เป็นการซื้อขายระหว่างปอนด์สเตอร์ลิงของสหราชอาณาจักรและดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นสกุลเงินหลักที่ใช้ในการซื้อขายระหว่างประเทศและมีบทบาทสำคัญในเศรษฐกิจโลก   ปัจจัยที่มีผลต่อ GBP/USD การเคลื่อนไหวของ GBP/USD ได้รับอิทธิพลจากปัจจัยทางเศรษฐกิจและการเมืองของทั้งสหราชอาณาจักรและสหรัฐอเมริกา ดังนี้ อัตราดอกเบี้ย: การเปลี่ยนแปลงของอัตราดอกเบี้ยโดยธนาคารกลางทั้งสองประเทศ (BoE และ Fed) ส่งผลโดยตรงต่อค่าเงินและความน่าดึงดูดใจของสกุลเงิน ข้อมูลเศรษฐกิจ: ตัวเลขเศรษฐกิจสำคัญ เช่น GDP, อัตราเงินเฟ้อ, การจ้างงาน และดุลการค้า มีผลต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและทิศทางของคู่สกุลเงิน เหตุการณ์ทางการเมือง: ความไม่แน่นอนทางการเมือง เช่น Brexit, การเลือกตั้ง หรือความขัดแย้งระหว่างประเทศ สามารถสร้างความผันผวนให้กับ GBP/USD ได้ ความเสี่ยงและความผันผวนของตลาด: ในช่วงที่ตลาดมีความเสี่ยงสูง นักลงทุนมักจะหันไปลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ค่าเงิน GBP อ่อนค่าลง กลยุทธ์การเทรด GBP/USD การวิเคราะห์ทางเทคนิค: ใช้แนวรับแนวต้าน, รูปแบบกราฟ และ Indicator ทางเทคนิคเพื่อระบุทิศทางและจังหวะการเข้าเทรด การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน: ติดตามปฏิทินเศรษฐกิจและข่าวสารสำคัญที่อาจส่งผลต่อค่าเงิน […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | April 24, 2024

การเทรดคู่เงิน AUD/USD เป็นหนึ่งในกิจกรรมการลงทุนที่ได้รับความนิยมในวงกว้างในวงการการเงินและการลงทุน โดยเฉพาะกลุ่มนักลงทุนที่มีความสนใจในการซื้อขายทางการเงิน โดยคู่เงิน AUD/USD นั้นหมายถึงการซื้อหรือขายดอลลาร์ออสเตรเลีย (AUD) ในราคาหน่วยละดอลลาร์สหรัฐ (USD) กลยุทธ์ในการเทรดคู่เงินนี้มีหลากหลายรูปแบบและมีข้อดีและข้อเสียต่างกันอย่างชัดเจน ในเชิงนี้ มุ่งหวังจะพิจารณาด้านที่สำคัญและเป็นประโยชน์ของการเทรดคู่เงิน AUD/USD พร้อมกับการจัดทำกลยุทธ์เทรดที่เหมาะสมกับคู่เงินดังกล่าวเพื่อความสำเร็จในการลงทุน ความสำคัญของการเทรดคู่เงิน AUD/USD การเทรดคู่เงิน AUD/USD มีความสำคัญอย่างมากในตลาดการเงินระหว่างประเทศ เนื่องจากคู่เงินดังกล่าวมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจที่มั่นคงระหว่างออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา การเทรดคู่เงินนี้มักเป็นที่นิยมในการลงทุนและการซื้อขายทางการเงินเนื่องจากมีความนิยมและความเป็นระบบที่ดี การที่คู่เงิน AUD/USD มีปริมาณการซื้อขายที่มาก และมีความผันผวนในราคาที่สูง ทำให้มีโอกาสในการทำกำไรและขาดทุนที่สูงขึ้น     การเทรดคู่เงิน AUD/USD เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสถานการณ์เศรษฐกิจของออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา โดยออสเตรเลียมีความขึ้นต่อการค้าขายกับประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ดังนั้น คู่เงิน AUD/USD มักจะสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ทำให้มีโอกาสในการวิเคราะห์และทำกำไรจากการทรงตัวของตลาดได้ และยังเป็นโอกาสที่ดีในการเข้าถึงตลาดที่ใหญ่ของออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นสองในเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก การที่คู่เงินนี้มีปริมาณการซื้อขายที่สูงและมีความผันผวนในราคาที่สูง ช่วยเพิ่มโอกาสในการทำกำไรสูงขึ้น   กลยุทธ์ในการเทรดคู่เงิน AUD/USD เงิน AUD/USD เป็นการแสดงความสัมพันธ์ระหว่างสถานการณ์เศรษฐกิจของออสเตรเลียและสหรัฐอเมริกา โดยออสเตรเลียมีความขึ้นต่อการค้าขายกับประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อย่างสหรัฐอเมริกา ดังนั้น คู่เงิน AUD/USD มักจะสะท้อนสถานการณ์เศรษฐกิจของทั้งสองประเทศ ทำให้มีโอกาสในการวิเคราะห์และทำกำไรจากการทรงตัวของตลาดได้ ดังนั้นการเทรดคู่เงิน […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | April 23, 2024

แนวโน้มขนาน (Sideway Trend) เป็นรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่พบได้บ่อยในตลาดฟอเร็กซ์ โดยคือช่วงเวลาที่ราคาเคลื่อนไหวภายในพิสัยแคบๆ โดยไม่สามารถแทงทะลุระดับราคาสูงสุดและต่ำสุดได้เป็นระยะเวลาหนึ่ง สาเหตุที่ทำให้เกิดแนวโน้มขนานมาจากการที่มีแรงซื้อและแรงขายที่สมดุล ผู้ซื้อและผู้ขายมีกำลังในการต่อรองที่ใกล้เคียงกัน จึงไม่สามารถผลักดันราคาออกนอกกรอบได้ ความสำคัญของแนวโน้มขนาน (Sideway Trend) ต่อนักวิเคราะห์  Sideway Trend มีความสำคัญต่อนักวิเคราะห์ทางเทคนิค เนื่องจากเป็นสัญญาณบ่งบอกแนวรับแนวต้าน (Support และ Resistance) ซึ่งเป็นระดับราคาที่ราคามักจะตีกลับในช่วงเวลาหนึ่ง นักวิเคราะห์จะศึกษาลักษณะของแนวโน้มขนาน เช่น ระยะเวลา ความกว้างของพิสัย ปริมาณการซื้อขาย เพื่อประเมินว่าแนวโน้มนี้จะยังคงดำเนินต่อไปหรือกำลังจะสิ้นสุดลง   ประโยชน์ของแนวโน้มขนาน (Sideway Trend) ในการวางกลยุทธ์ นอกจากนั้น Sideway Trend มีประโยชน์ต่อการวางกลยุทธ์การซื้อขายและการบริหารความเสี่ยง โดยนักลงทุนมักจะรอจังหวะที่ราคาหลุดพ้นออกจาก Sideway Trend ก่อนที่จะเข้าซื้อหรือขายคู่สกุลเงิน เนื่องจากบ่งบอกถึงการเปลี่ยนแปลงทิศทางของราคา นอกจากนี้ ขอบเขตของ Sideway Trend ยังสามารถใช้เป็นจุดตัดขาดทุน (Stop Loss) ได้อีกด้วย ข้อจำกัดของการวิเคราะห์แนวโน้มขนาน (Sideway Trend) อย่างไรก็ตาม Sideway Trend […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | April 11, 2024

ดาวน์เทรนด์ (Downtrend) คือรูปแบบการเคลื่อนไหวของราคาที่มีทิศทางลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดของราคาจะค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ Downtrend ในตลาดหุ้น สามารถเกิดขึ้นได้ด้วยหลายปัจจัย ได้แก่ สภาวะเศรษฐกิจทั่วไปของประเทศ นโยบายการเงินที่ออกโดยธนาคารกลางหรือรัฐบาล สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอน และปัจจัยที่ส่งผลต่อตลาดเอง เช่น ผลกำไรของบริษัท และความนิยมของกลุ่มหุ้นบางราย   การดาวน์เทรนด์ (Downtrend) ของตลาดหุ้นในประเทศไทย ในประเทศไทย การทรงตัวลงของตลาดหุ้นมักเกิดขึ้นในช่วงที่มีปัจจัยเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน เช่น การเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงิน สถานการณ์การค้าระหว่างประเทศที่ไม่แน่นอน หรือความผันผวนในระดับราคาของสินค้าพื้นฐาน การทรงตัวลงของตลาดหุ้นในประเทศไทยสามารถส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการลงทุนของประชาชน โดยมักมีผลกระทบทางลบต่อการลงทุนในระยะสั้น แต่อาจเป็นโอกาสในการลงทุนในระยะยาวสำหรับผู้ลงทุนที่มีความเชื่อมั่นในศักยภาพของตลาดหุ้นในระยะยาว การทรงตัวลงของตลาดหุ้นในประเทศไทยยังสามารถเกิดขึ้นจากปัจจัยที่มีผลต่อการลงทุนที่ดีขึ้น เช่น นโยบายการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน การสร้างสถานที่ท่องเที่ยวและการทำธุรกรรมธุรกิจที่สร้างรายได้ให้กับประชาชน เป็นต้น การดาวน์เทรนด์ (Downtrend) ของตลาดหุ้นในระดับโลก การทรงตัวลงของตลาดหุ้นในระดับโลกสามารถเกิดขึ้นจากเหตุการณ์ที่มีผลกระทบต่อตลาดโลกโดยรวม เช่น ความไม่แน่นอนในสภาพเศรษฐกิจโลก ความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการเงินของสำนักงานกลาง หรือเหตุการณ์ทางการเมืองที่มีผลกระทบต่อตลาดโลก การทรงตัวลงของตลาดหุ้นในระดับโลกสามารถส่งผลต่อตลาดหุ้นในประเทศต่างๆในระยะสั้นและระยะยาว   ลักษณะสำคัญของดาวน์เทรนด์ (Downtrend) การลงทุนในตลาดหุ้นเป็นหนึ่งในวิธีการลงทุนที่ได้รับความนิยมในหลายประเทศทั่วโลก เนื่องจากมีโอกาสให้ผู้ลงทุนได้รับกำไรอย่างมากมาย แต่ก็มีความเสี่ยงเกี่ยวกับการเกิด Downtrend หรือการทรงตัวลงของตลาดหุ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อผลตอบแทนของการลงทุนได้ การเข้าใจและการวิเคราะห์สาเหตุและผลกระทบของ Downtrend เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | April 9, 2024

Trading Central เปรียบเสมือนเป็นเครื่องมือเข้าถึงการวิเคราะห์ที่ช่วยให้การเทรดได้ด้วยความมั่นใจ ทำให้การลงทุนบรรลุเป้าหมาย ของเทรดเดอร์ที่มองหาการสนับสนุนที่เหมาะสม แม้กระทั่งหา trade setup ได้ง่าย เพิ่มโอกาสให้ลูกค้าเทรดได้มากขึ้น ยิ่งมีรายได้เยอะขึ้นจากการลงทุนในแต่ละครั้ง   ทำความเข้าใจ Trading Central พร้อมหลักการทำงานเป็นอย่างไร เชื่อว่าเทรดเดอร์หลายคนอาจยังไม่เข้าใจว่า Trading Central แท้ที่จริงแล้วมีประสิทธิภาพการทำงานเป็นอย่างไร เปรียบเสมือนเป็นปฏิทินเศรษฐกิจเชิงลึก, Crowd Insight, มุมมองทางเทคนิคและยังรายงานข่าวแบบรายวัน ทั้งนี้เป็นการติดตามสถานการณ์และข่าวล่าสุด สิ่งอำนวยความสะดวกพิเศษเหล่านี้ มีส่วนสำคัญในการเทรดเป็นอย่างมาก จากการวิเคราะห์ตามสภาวะจริงโดยอ้างถึงเหตุการณ์ตามความเคลื่อนไหวของตลาด หลักการทำงานสามารถใช้งานร่วมกับแพลตฟอร์มอื่นได้ ทำให้การเทรดแต่ละครั้งของนักลงทุนสามารถสำรวจและวิเคราะห์ได้อย่างอิสระ ใช้ประโยชน์จากข่าวออนไลน์และรับแนวคิดการลงทุนที่เชื่อถือได้ รวมถึงการตรวจสอบตลาดการเงินได้อย่างต่อเนื่อง และนำข้อมูลเชิงลึกนำไปใช้ได้     ข้อกำหนดการทำงานที่ควรทราบก่อนใช้งาน เครื่องมือประเภทนี้จะทำงานได้จริง เมื่อใช้บัญชีซื้อขายของจริงเท่า ควรมีเงินอย่างน้อยเป็นจำนวนขั้นต่ำตามที่โบรกเกอร์กำหนดเช่น มีเงินอย่างน้อย 200 USD หรือเทียบเท่า วิธีการอ่านรีพอร์ตที่แสดงให้เห็นในรูปภาพแผนภูมิ มีดังนี้ เส้นสีเขียว-เส้นแนวต้าน, เส้นสีแดง-เส้นแนวรับ, เส้นสีน้ำเงิน- scenario หรือสถานการณ์ทางเลือก เหตุผลที่ควรเลือกใช้งาน Trading Central ยอมรับว่าการเทรดฟอเร็กซ์ให้ได้ผลตอบแทนสูงสุด หลายคนเลือกใช้งาน […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | March 27, 2024

อินดิเคเตอร์ที่เทรดเดอร์ได้รับความนิยม โดยเฉพาะ Pivot points คือเครื่องมือที่มีความโดดเด่นไม่น้อย ประสิทธิภาพในการใช้งานสามารถระบุแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงความเคลื่อนไหวของราคาและบ่งบอกสภาวะของตลาดได้ว่าซื้อหรือขายมากเกินไป สามารถนำมาใช้งานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ได้ ทำความรู้จักกับ Pivot points เชื่อว่าเทรดเดอร์หลายคนคงจะรู้จักกันดีกับ Pivot points ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ช่วยระบุระดับราคาที่เป็นแนวรับ แนวต้าน ให้แบบอัตโนมัติ จึงเป็นเครื่องมือทางเทคนิคที่ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวาง นักลงทุนในตลาดฟอเร็กซ์นิยมนำมาใช้งานกันมาก เหมาะกับตลาดที่มีความผันผวนสูงหรือตลาดที่มีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเหมาะกับทุกสภาวะตลาดไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีแนวโน้มขาขึ้นหรือแนวโน้มขาลง ที่สำคัญเหมาะกับเทรดเดอร์มือใหม่ เพราะหลักการใช้งานเข้าใจง่าย     สิ่งสำคัญที่ควรทราบเมื่อเข้าใช้งานในระบบ ต้องเข้าใจว่าเวลาเปิดทำการของตลาดฟอเร็กซ์ 24 ชั่วโมง เวลาทำการของตลาดนั้นถูกแบ่งเป็น 4 เซสชั่น คือ ญี่ปุ่น , ออสเตรเลีย , สหรัฐอเมริกา , สหราชอาณาจักร นักลงทุนสามารถค้นหาช่วงเวลาที่ต้องการซื้อขาย เวลาทำการของตลาดมีสี่เซสชันทำให้การเทรดตามกรอบเป็นโอกาสดีในการลงทุน เช่น ตลาดสหรัฐปิดและตลาดเอเชียเปิด ราคาอาจยังไม่เปลี่ยนแปลงเป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้การระบุแนวรับ แนวต้านได้ง่ายขึ้น     เทคนิคการใช้งาน Pivot points เชื่อว่าเทรดเดอร์ทุกคนต่างมีกลยุทธ์ในการเทรดตามสไตล์ของตัวเอง ความพิเศษของ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | March 26, 2024

Bollinger Bands คือ Indicator พื้นฐานที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้มากสุด ด้วยจุดเด่นที่นำมาใช้งานและประยุกต์เปลี่ยนไปสถานการณ์ สามารถวิเคราะห์สภาวะตลาดการเงินอาจมีความผันผวนเกิดขึ้นก็ตาม และบ่งบอกถึงพฤติกรรมของราคาที่อาจจะเกิดขึ้นได้อีกด้วย   ทำความรู้จักกับ Bollinger Bands นักวิเคราะห์ทางเทคนิค John Bollinger ที่พัฒนาเครื่องมือการวิเคราะห์อย่าง Bollinger Bands เพื่อนำมาใช้เป็นตัวบ่งชี้ความผันผวน การออกแบบมาเพื่อแสดงให้เทรดเดอร์เห็นหากมีการเคลื่อนไหว ทั้งนี้ตัวบ่งชี้ความผันผวนประกอบด้วยแถบสองแถบที่ลากอยู่เหนือเส้นค่าเฉลี่ยและสามารถบ่งบอกถึงสภาวะตลาดและพฤติกรรมของราคาได้ ดังนี้ ราคาสามารถไปต่อได้อีกหรือไม่ การกลับตัวของราคา ลักษณะการพักตัวของราคา ความน่าจะเป็นในการทะลุของราคา ความผันผวนของราคาอยู่ในระดับใด Bollinger Band ประกอบด้วยแถบเส้นอะไรบ้าง การเทรดฟอเร็กซ์ให้ง่ายขึ้นเมื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Bollinger Band ซึ่งประกอบไปด้วยแถบเส้นเหล่านี้ Upper Band โดยทำหน้าที่เป็นแนวต้าน ค่าเบี่ยงมาตรฐานคือการวัดความผันผวนของราคา เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้กรอบเวลามองย้อนกลับ 20 ช่วง Middle Band (SMA) สามารถทำหน้าที่ได้ทั้งแนวรับและแนวต้าน เทรดเดอร์สามารถปรับแต่งกรอบเวลาให้เหมาะสมกับความต้องการหรือให้เหมาะสมกับสินทรัพย์ที่ตนเองเทรดก็ได้ Lower Band ทำหน้าที่เป็นแนวรับ โดยส่วนมากจะกำหนดระยะเวลา 20 วัน หากความผันผวนเพิ่มขึ้น กรอบแบรนด์ก็จะยิ่งกว้างมากขึ้น หากความผันผวนลดลง […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | March 19, 2024

การเทรดฟอเร็กซ์ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดจำเป็นต้องใช้เทคนิคเข้าช่วยให้การเทรดเป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ โดยเฉพาะการใช้งาน Autochartist คือเครื่องมือทางเทคนิคประสิทธิภาพสูงในการเทรดแบบ Realtime และเหมาะกับนักลงทุนทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่น   ทำความรู้จัก Autochartist คืออะไร และหลักการทำงานเป็นอย่างไร Autochartist เปรียบเป็นเครื่องมือช่วยด้านการวิเคราะห์ตลาดได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพในการระบุโอกาสทางการค้าที่มีความเป็นไปได้ มีหลายฟังก์ชั่นรวมถึงการแจ้งเตือนระบบอัตโนมัติ มีความเชื่อมโยงกับโอกาสในการซื้อขาย รวมถึงการรายงานการวิเคราะห์ตลาดและสภาพตลาด จึงเป็นฟังก์ชั่นที่นักลงทุนส่วนใหญ่ให้ความสนใจและนำมาใช้งาน โดยเฉพาะ Trader ที่เริ่มต้นเข้าสู่ตลาดหรือเริ่มการเทรดฟอเร็กซ์เป็นครั้งแรก นอกจากนี้ยังช่วยในด้านการวิเคราะห์ความผันผวน การคาดการณ์ของทิศทางในตลาดมีแนวโน้มเป็นอย่างไร ด้วยประสิทธิภาพการทำงานช่วยให้การเทรดของนักลงทุนมีความเป็นมืออาชีพยิ่งขึ้นและมีให้บริการบน MT4 และ MT5 หลักการทำงานของเครื่องมือสแกนตลาดทำหน้าที่ตลอด 24/5 ทำหน้าที่แบบเรียลไทม์เพื่อการเทรดคุณภาพสูงและสดใหม่ สำหรับรูปแบบการเคลื่อนไหวที่จับได้เช่น แบบสามเหลี่ยม , แบบสี่เหลี่ยมผืนผ้า , แบบเส้นขนาน , แบบหน้าจั่ว , แบบหัวและไหล่ รูปแบบรายงานส่งสามครั้ง/วัน ตลาดเอเชียรายงานตอน 12.00 น. (EET) , ตลาดยุโรปส่งตอน 8.00 น. (EET) , ตลาดอเมริกาส่งตอน 13.00 น. (EET)   […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | March 18, 2024

เทคนิคการเทรดฟอเร็กซ์ให้ได้ผลตอบแทนสูงสุดและมีโอกาสชนะ สิ่งจำเป็นต่อการเทรดในทุกครั้งคือการค้นหา Trade setup ซึ่งเป็นวิธีที่เทรดเดอร์มืออาชีพนิยมใช้กันมาก โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องรู้วิธีการอ่านกราฟเป็นทุกรูปแบบ เพียงแค่จับจังหวะระบบเทรดให้ได้   ทำความเข้าใจกับ Trade setup ก่อนลงทุน ก่อนจะเข้าสู่ตลาดฟอเร็กซ์อย่างเต็มตัว ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับหน้าเทรดหรือที่นักลงทุนส่วนใหญ่มักจะเรียกว่า Trade setup ซึ่งเป็นจุดที่เทรดเดอร์ทุกคนเข้ามาซื้อหรือขาย ทั้งนี้แต่ละหน้าเทรดมีความแตกต่างกันตามรูปแบบกราฟที่ราคาเคลื่อนที่ไปตามตลาดซึ่งแต่ละหน้าเทรดนั้นประกอบไปด้วยจุดเข้าซื้อ , จุดขาย , รูปแบบกราฟ, การวางเงินในแต่ละหน้าเทรด และ ความเข้าใจของเทรดเดอร์ นอกจากนี้ Trader ถูกแบ่งออกเป็น 3 แบบคือ Day Trader , Swing Trader , Trend follower ซึ่งมีความหมายต่างกันออกไป แบบ Day Trader จะใช้ในรูปแบบเบรกเอาท์ในกราฟระยะสั้น , Swing Trader เพื่อมองหาจุดกลับต่าง ๆ และ Swing trader เพื่อหาจุดต่ำสุดไปขายจุดสูงสุดหรือการมองหาจุดกลับต่าง ๆ ส่วน Trend […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | March 14, 2024

Indicator ที่เทรดเดอร์หลายคนมักจะมองข้าม Momentum ในกลุ่ม Oscillator ที่ได้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาล่าสุด สามารถระบุความแข็งแรงของสัญญาณเคลื่อนไหวได้เร็ว ทำให้เทรดเดอร์มองเห็นช่องว่างของราคาที่ผันผวนได้มีส่วนสำคัญช่วยเก็งกำไรให้ได้ผลดีสุด   ปัจจัยที่ผลต่อ Momentum Oscillator ปัจจัยที่มีผลต่อการเทรดโมเมนตัม สามารถแบ่งประเภทใหญ่ ๆ ได้ 3 ประเภท ดังนี้ Volatility คือความผันผวนที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นปัจจัยอันดับแรกที่ส่งผลการเทรด จากการแกว่งตัวของราคาที่เพิ่มมากขึ้นทำให้เห็นช่องว่างจากจุดนี้และเป็นโอกาสเข้ามาทำกำไรในรูปแบบระยะสั้นได้ทันที Volume Forex ถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญอันดับสอง ปริมาณการซื้อขายในตลาดส่วนใหญ่เลือกซื้อขายมากกว่า หากสังเกตเห็นว่ามีฝั่งใดฝั่งหนึ่งมีความถี่ของปริมาณซื้อขายเพิ่มขึ้นอย่างเร็ว คือการสะท้อนให้เห็นถึงโอกาสของการเกิด Trend แบบต่อเนื่องได้ Timeframe ปัจจัยสำคัญอีกหนึ่งสิ่งที่หลายคนมองข้ามนั่นคือกรอบเวลา การเทรดที่อาศัยการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้น ทั้งนี้การเคลื่อนไหวของราคามีผลเมื่อปริมาณการซื้อขายมากน้อยแค่ไหนโดยส่วนมากนักลงทุนมักจะชอบทำกำไรใน TF แบบสั้นเพื่อง่ายต่อการเก็งกำไรในอนาคตและไม่ต้องรอนาน     ประเภทของ Momentum Oscillator ที่ควรรู้ ทำความรู้จักประเภทของโมเมนตัม สามารถแบ่งได้ 2 ประเภทดังนี้ Relative Momentum ประเภทนี้ถือว่ามีส่วนสำคัญช่วยให้เทรดเดอร์ทุกท่านสามารถเปรียบเทียบพฤติกรรมของคู่สกุลที่เลือกเทรดฟอเร็กซ์ สามารถบอกได้ว่าสินทรัพย์ในขณะนั้นสภาวะอย่างไร เช่นกำลังอ่อนแอคือต้องขาย ในทางกลับกันราคาสินทรัพย์แข็งแกร่งต่อเนื่องคือต้องซื้อ Absolute momentum ประเภทนี้ที่ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเปรียบเทียบพฤติกรรมของคู่เงินที่ในปัจจุบัน […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | March 8, 2024

การทดสอบย้อนกลยุทธการเทรดเพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์นั้น ๆ ใช้งานได้ดีหรือไม่ ตัวประเมินความผันแปรที่อ้างอิงข้อมูลเก่ามาคำนวณ การ Backtesting จึงเป็นที่ยอมรับในกลุ่มนักลงทุนเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับตัวเอง รวมถึงการพิจารณาความเป็นไปได้ของกลยุทธในการซื้อขาย  หากการทดสอบผ่านไปด้วยดีนั่นคือผลลัพธ์ที่คุณจะได้รับจริง   เป้าหมายและการทำงานของ Backtesting เป็นอย่างไร เป้าหมายการทดสอบกลยุทธก่อนนำไปใช้งานในตลาดฟอเร็กซ์จริง ๆ จุดประสงค์ที่หลายคนเลือกทำ Backtesting เสียก่อนเพราะต้องการเลี่ยงความเสี่ยงหรือการสูญเสีย เพื่อให้มั่นใจว่ากลยุทธ์ที่นำมาทดสอบนั้นใช้งานได้จริงเห็นผลทำกำไรได้จริงเมื่อนำมาใช้งานในตลาดการลงทุน หากผลการทดสอบไม่ดีหรือไม่เป็นไปตามที่คิด นักลงทุนสามารถเลี่ยงไม่ใช้งานได้ เป้าหมายการเทรดแบบหวังผลและลดความสูญเสียหรือการขาดทุน พื้นฐานการทดสอบกลยุทธ์เพื่อคาดหวังผลลัพธ์ที่ส่งผลดีในอนาคต ทั้งนี้กลยุทธ์ที่สามารถทำงานได้ดีในตลาดบางครั้งอาจล้มเหลวในอีกสภาพแวดล้อมหนึ่งก็ได้ เทรดเดอร์ควรตัดสินใจทดสอบเพื่อความมั่นใจในการเทรดจริง ๆ อย่างไรก็ตามไม่ควรลืมว่าการทดลองก็ควรจะรวมค่าธรรมเนียมซื้อขาย การถอนเงิน ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ การทดสอบเสมือนเป็นการเทรดจริงแม้ว่าจะเป็นเพียงการเทสแต่ก็ไม่ได้รับประกันถึงความแม่นยำ 100% ต้องไม่ลืมว่าข้อมูลที่นำมาใช้ในการทดสอบแต่ละครั้งคือข้อมูลจากอดีต ผลดำเนินงานในตลาดจริงอาจมีการเปลี่ยนแปลงเพราะในตลาดฟอเร็กซ์มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลาทำให้มีความคลาดเลื่อนได้ตลอด แต่ผลลัพธ์ถือว่ามีโอกาสเป็นไปได้ที่จะเกิดขึ้นซ้ำรอยตามกลยุทธ์ที่เราทดสอบก็เป็นได้   รูปแบบกลยุทธ์ Backtesting มีกี่แบบ รูปแบบกลยุทธ์แบ่งออกได้ 2 วิธี มีดังนี้ กลยุทธ์การ Backtest อัตโนมัติ สำหรับการเทรดในวิธีนี้จะเป็นแบบออโต้ ซึ่งวิธีนี้อาศัยการเขียนโค้กเพื่อใช้ในการทดสอบการเทรดแบบออโต้ วิธีนี้อาจจะซับซ้อนเกินกว่าที่นักลงทุนหน้าใหม่จะเข้าใจได้ เชื่อว่าเทรดเดอร์ส่วนใหญ่อาจไม่ชอบวิธีนี้เพราะต้องทราบวิธีเขียนโค้ด กลยุทธ์การ Backtest ด้วยตัวเอง ถือว่าวิธีสามารถตอบโจทย์นักลงทุนได้ทุกระดับชั้น แม้แต่ผู้ที่ไม่มีทักษะการเขียนโค้ด […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | March 7, 2024

เทรดฟอเร็กซ์ กลายเป็นการลงทุนที่ได้รับความสนใจสูงสุด เพื่อประสิทธิภาพในการเทรดจำเป็นต้องอาศัยเครื่องมือทางเทคนิคเข้ามาช่วยคาดการณ์เพื่อเพิ่มโอกาสในการซื้อขายได้อย่างแม่นยำ หากคุณทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Price Pattern ช่วยเพิ่มความแม่นยำในการทำนายทิศทางราคาที่เกิดขึ้นในอนาคตได้   คุณรู้ไหมว่าอะไรคือ Price Pattern ? ก่อนจะตัดสินใจเทรดอย่างมืออาชีพ ควรศึกษารูปแบบ Price Pattern ให้เข้าใจเสียก่อนเพราะเป็นรูปแบบการเคลื่อนที่ของราคาสินค้าในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ ทำให้การคาดการณ์รูปแบบราคาที่กำลังจะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ซึ่งเป็นสมมุติฐานที่เชื่อว่ารูปแบบราคาในอดีตจะเกิดขึ้นซ้ำหรือพฤติกรรมของราคามักจะสะท้อนการต่อสู้ระหว่างแรงซื้อและแรงขายในช่วงเวลาหนึ่ง จึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เกิดการคาดการณ์แนวโน้มราคาที่กำลังจะเกิดขึ้น Price Pattern แบ่งได้กี่ประเภท เพื่อให้เข้าใจง่ายยิ่งขึ้น การแบ่งประเภทของ Price Pattern สามารถจัดแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ ได้ดังนี้ รูปแบบกลับตัว ประเภทนี้เป็นสัญญาณรูปแบบราคาที่บ่งบอกว่าเทรนนี้กำลังเกิดขึ้นและกำลังจะสิ้นสุดลง หลังจากนั้นแล้วจะเปลี่ยนไปยังทิศทางตรงข้ามคือการกลับตัวสวนขึ้นไป เหตุการณ์ลักษณะนี้มักจะเกิดขึ้นในช่วงท้ายของเทรน รูปแบบราคาในกลุ่มนี้มักจะเป็นการต่อสู้กันระหว่างแรงซื้อและแรงขายในชั่วขณะหนึ่ง ตัวอย่างเช่น กลุ่มตัวที่เกิดขึ้นเป็นแนวโน้มขาขึ้นแล้วเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขาลง ความต่อเนื่องของทิศทางราคา ประเภทนี้เป็นรูปแบบสัญญาณรูปแบบของราคาที่แสดงให้เห็นการพักตัวเพื่อลดความร้อนแรงของเทรนหรือการชะลอการขาย ทิศทางของราคาที่ยังคงดำเนินไปทางเดิมอย่างต่อเนื่อง กลุ่มราคาแบบนี้มักจะเป็นราคาที่ดำเนินต่อไปอย่างแข็งแรง เทรดเดอร์มักจะอาศัยช่วงนี้เพื่อเก็งกำไรในบางส่วน ทั้งนี้สามารถเกิดขึ้นได้ทั้งแบบขาขึ้นและขาลง กลุ่มราคากำลังเลือกทาง จัดว่าเป็นประเภทที่มีสัญญาณของรูปแบบราคาที่เกิดขึ้นแต่ยังไม่ชัดเจนว่าทิศทางของราคานั้นจะไปยังทางไหนดี ซึ่งมีความคล้ายกับรูปแบบราคาพักตัวแต่ต่างกันตรงที่ราคานั้นมีสิทธิ์พลิกเปลี่ยนไปได้ทุกทิศทาง ทั้งขาขั้นหรือขาลงก็เป็นไปได้ รูปแบบราคาในกลุ่มนี้เป็นผลจากการต่อสู้งของแรงซื้อและแรงขายที่สูสีกัน หากแรงซื้อหรือแรงขายฝ่ายใดอ่อนลงก็จะเห็นทิศทางที่แท้จริงว่าราคากำลังเลือกทางใด 7 รูปแบบ Price Pattern พื้นฐานที่ควรรู้ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 28, 2024

Stochastic Oscillator จัดว่าเป็น Indicator ที่เทรดเดอร์ทุกคนรู้จักกันดี และมีส่วนสำคัญช่วยให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น ซึ่งเป็นเครื่องมือช่วยในด้านการวิเคราะห์ในตลาด เพื่อดูแนวโน้มการซื้อขาย จึงเหมาะนำมาใช้เป็นตัวช่วยเพื่อให้นักลงทุนเก็งกำไรได้ง่ายในระยะสั้น เทรดเดอร์มือใหม่ควรรู้ว่า Stochastic Oscillator คืออะไร? หากคุณเป็นนักลงทุนหน้าไม่อาจยังไม่คุ้นเคยกับ Stochastic Oscillator แต่ถ้าเป็นเทรดเดอร์มืออาชีพต่างก็รู้จักกันดี เปรียบเสมือนเป็น Tools ช่วยในการเทรดอย่างหนึ่ง ใช้สำหรับวัดการเปลี่ยนแปลงของราคา จากราคาปิดเปรียบกับราคาในปัจจุบัน จากจุดนี้เองจะทำให้เทรดเดอร์เข้าใจกับสถานการณ์ดีว่าต้องเคลื่อนที่อย่างไร จะเทรนด์เลื่อนที่ไปยังทิศใดกันแน่ สำหรับอินดิเคเตอร์ตัวนี้อาศัยเส้น 2 เส้น ซึ่งเป็นสิ่งที่เทรดเดอร์เห็นผ่านตากันมาบ้างแล้ว เส้นหนึ่งจะเคลื่อนที่เร็วกว่าอีกเส้นหนึ่ง ทำให้การคาดการณ์ของเทรดเดอร์มีความแม่นยำมากขึ้นเมื่ออ่านเครื่องมือประเภทนี้ หลักการอ่าน Stochastic Oscillator ให้ถูกต้อง ก่อนการเทรดควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Stochastic Oscillator ซึ่งมีค่าอยู่ระหว่าง 0-100 หลักการทำงานไม่ต่างจากเครื่องมือ Momentum ประเภทอื่น หลักการพิจารณาการอ่านค่ามี ดังนี้ หาก Indicator อยู่สูงกว่าระดับ 80 ซึ่งหมายถึงว่า ตลาดในขณะนั้นอยู่สภาวะ overbought หาก Indicator อยู่ต่ำกว่าระดับ 20 […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 23, 2024

Spining Top รูปแบบกราฟแท่งเทียน ที่สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอนของแรงซื้อและแรงขาย ในตลาดมีความผันผวนมากเท่าไหร่ส่งผลต่อเนื้อเทียนเล็ก หากตลาดมีความผันผวนน้อย เนื้อเทียนก็จะมากขึ้น ซึ่งเป็นปรากฏการณ์ที่มีแนวโน้มขาขึ้นและขาลงมีสิทธิ์เกิดขึ้นได้ทั้งหมด ความรู้พื้นฐาน Spining Top ที่ควรทราบ การเทรดอย่างมีประสิทธิภาพควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Spining Top ซึ่งเป็นความรู้พื้นฐานของการเทรด การอ่านกราฟแท่งเทียนที่มีลักษณะไส้เทียนยาว ทั้งด้านบนและด้านล่างแต่มีเนื้อเทียนที่สั้น แต่สีเทียนนั้นไม่ได้มีผลต่อการอ่านกราฟแต่อย่างใด ความหมายของกราฟแบบนี้ ที่แสดงให้เห็นถึงการเคลื่อนไหวจากราคาเปิดไปจนถึงราคาปิด ซึ่งเป็นการแสดงความพยายามทางฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย ที่กำลังต่อสู้เพื่อแย่งชิงราคา แม้จุดเปิดปิดอาจมีความแตกต่างกันไม่มากนัก ส่วนราคาขึ้นลง จะเห็นได้ว่าการแย่งชิงความได้เปรียบไม่ตกเป็นของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง กรณีนี้หากสปินนิ่ง ท็อปเกิดขึ้นในช่วงที่กำลังอยู่ในขาขึ้นสื่อให้เห็นว่าไม่มีคนอยากซื้อ และอาจเกิดจุดกลับเทรนได้ ในทางกลับกันหากเกิดขึ้นในช่วงทิศทางขาลงบ่งบอกว่าไม่ค่อยมีคนอยากซื้อแล้วเกิดจุดกลับ Trend ในทิศตรงกันข้ามนั่นเอง ความแตกต่างระหว่าง Spining Top กับ Doji เป็นอย่างไร ทำความเข้าใจระหว่าง Spining Top กับ Doji มีความแตกต่างกัน หากมองผิวเผิน จะเห็นได้ว่าทั้งสองแบบมีรูปลักษณ์ที่ใกล้เคียงกัน แต่มีความต่างกันที่ขนาดแท่งเทียนของโดจิมีเนื้อเทียนที่เล็กกว่า ซึ่งหมายถึงความเป็นกลางในราคาหรือแรงกดดันระหว่างผู้ซื้อขายมีความใกล้เคียงกันมาก หากเป็นเนื้อแท่งเทียนของสปินนิ่ง ท็อป ที่พบได้บ่อยเช่นกัน โดยจะสื่อถึงจุดสูงหรือต่ำสุดหากมีการเปลี่ยนแปลงในตลาด ทั้งนี้รูปแบบกราฟโดจิมักจะเกิดขึ้นหลังจากที่สปินนิ่ง ท็อป ข้อจำกัดการใช้งานกราฟ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 22, 2024

Shooting Star รูปแบบดาวตกเป็นที่นิยมในการเทรดอย่างมาก มีประสิทธิภาพและความเรียบง่าย รูปแบบการเกิดมักจะพบได้บ่อย การจดจำได้ง่ายจากการเทรด และคุณสามารถนำมาประยุกต์ ใช้ในกลยุทธ์การซื้อขายได้เป็นอย่างดีและเหมาะสําหรับเทรดเดอร์มือใหม่ในตลาด ทำความรู้จัก Shooting Star คืออะไร Shooting Star หรือดาวตก คือ รูปแบบแท่งเทียนประเภทหนึ่งมักพบได้บ่อย ซึ่งเป็นแท่งเทียนขาลงที่มักจะพบในช่วงท้ายของแนวโน้มก่อนที่จะกลับตัวเป็นขาลง รูปแบบของกราฟประเภทนี้ประกอบด้วยเทียนแท่งเดียว จุดเด่นของกราฟประเภทนี้ที่ไม่เหมือนกับกราฟแท่งเทียนประเภทอื่นนั่นคือ มีตัวเทียน แท่งเทียน เอกลักษณ์ของแท่งเทียนนั่นคือมี Body ที่เล็กและใกล้จุดต่ำสุดของวัน เป็นผลมาจากราคาสินทรัพย์ผิดใกล้กับราคาเปิด จากเหตุการณ์นี้ทำให้เห็นว่าผู้ซื้อหรือกระทิงนั้น ไม่สามารถทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นได้ในช่วงระหว่างวัน นอกจากนี้หากคุณพบรูปแบบกราฟเห็นไส้เทียนด้านบนยาวเป็นสองเท่าของบอดี้ ไส้เทียนล่างสั้นหรือมองเห็นได้ไม่ชัด จึงเห็นคุณลักษณะของการดูรูปแบบกราฟดาวตก เพราะการเทรดควรพิจารณาจากไส้เทียนไม่ว่าด้านใดด้านหนึ่ง     จุดเด่นของ Shooting Star เชื่อว่าเทรดเดอร์หลาย ๆ คนชื่นชอบการอ่านกราฟ Shooting Star ที่มีจุดเด่นหลายอย่างและเป็นที่ยอมรับอย่างมาก ทำให้การเทรดมีประสิทธิภาพมากขึ้นด้วยจุดเด่นที่น่าสนใจ ดังนี้ การระบุได้ง่ายเมื่อเลือกดูกราฟแท่งเทียน เพียงแค่แท่งเดียวที่มีความพร้อมและให้รายละเอียดครบ ทำให้การสังเกตและการวิเคราะห์บนกราฟ เข้าใจได้ง่ายกว่ารูปแบบอื่น ๆ ความน่าเชื่อของการเทรด มีน้ำหนักมากยิ่งขึ้น เทรดเดอร์หลาย ๆ คนชื่นชอบการเทรดและอ่านกราฟแท่งเทียนมีผลดีและช่วยระบุการกลับตัวของแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้น […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 20, 2024

Piercing Line รูปแบบการกลับตัวของแนวโน้มขาขึ้น จัดว่าเป็นรูปแบบกราฟแท่งเทียนประเภทหนึ่งที่ Trader ส่วนใหญ่สนใจ สามารถบ่งบอกถึงสัญญาณการกลับตัวของค่าเงินที่มีความผันผวนในตลาดสูง ถือว่าเป็นกลยุทธ์การเทรดที่หลายคนนำมาใช้ในการเทรดมากสุด ทำความรู้จัก Piercing Line ให้ลึกยิ่งขึ้น ทำความรู้จัก Piercing Line รูปแบบการกลับตัวแนวโน้มขาขึ้นหรือรูปแบบกระทิง ซึ่งเป็นรูปแบบการกลับตัวที่ปรากฎต่อจุดสิ้นสุดของแนวโน้ม การอ่าน Bull Chart Pattern จำเป็นต้องมีแนวโน้มขาลง เริ่มการสังเกตครั่งแรกแท่งเทียงแท่งแรกควรเป็นสีแดงหรือสีเข้มที่มี Body ขนาดใหญ่ ส่วนแท่งเทียนที่สองควรเป็นสีเขียวหรือสีอ่อน จำเป็นต้องอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าตำแหน่งของแท่งเทียนแท่งแรก สิ่งสำคัญแท่งเทียนที่สองจำเป็นต้องเจาะลึกแท่งเทียนอันแรกเพื่อนัยสำคัญ จึงเป็นสัญญาณเริ่มต้นว่ากระทิงอยู่ในความดูแลและกำลังการซื้อลดลง     นักลงทุนได้อะไรจากการใช้ Piercing Line ? การเทรดอย่างมีประสิทธิภาพและเรียนรู้การอ่านกราฟแท่งเทียน Piercing Line เป็นแพทเทิร์นที่มีส่วนสำคัญในการเทรดอย่างมากเพื่อช่วยบอกสัญญาณสำคัญหลาย ๆ อย่างมาก ความสำคัญกับเทรนด์ขาลงที่เริ่มอ่อนตัวลงส่งผลทำให้ราคาปิดอยู่เหนือแท่งขาลง ความสำคัญของการอ่านกราฟ ที่บอกสัญญาณของเทรนด์ขาขึ้นที่กำลังจะเริ่มต้น บางครั้งการส่งสัญญาณอาจเป็นสัญญาณเท็จหรือ False break เทรดเดอร์หลายคนอาจตกหลุมพรางเกี่ยวกับสัญญาณหลอก อย่างไรก็ตามเพื่อไม่ให้เสี่ยงเทรดเดอร์ควรวิเคราะห์ตามสถานการณ์ และวางแผนควบคู่กับการเลือกใช้เครื่องมือทางเทคนิค รู้ไหมว่า จริง ๆ แล้ว Piercing […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 19, 2024

Master Candle อีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญของการเทรด เพราะว่ามันสามารถช่วยให้คุณสามารถต่อยอดทำกำไรได้อย่างไม่น่าเชื่อ มีส่วนช่วยเรื่องการวิเคราะห์สัญญาณและทำการซื้อขายได้สำเร็จ ถือว่าเป็นแนวทางการเทรด ที่นักเทรดเดอร์ทุกคนควรทราบเป็นความรู้แบบ Basic ให้กับตัวเอง การเทรด Master Candle ใช้หลักการใด ? สำหรับการเทรด Master Candle คือการเทรดโดยใช้หลักการ breakout trading เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ คือการเทรดอย่างใจเย็น รอให้มันทะลุมาถึงจุดสูงสุดหรือจุดต่ำสุดของ Master Candle เพราะมันมีจุดต่ำสุดและจุดสูงสุด เมื่อราคาถูกทำลายหรือเกินต้านขึ้นมานั่นหมายความว่ามันคือจุดเข้าของเรา ทั้งนี้การเทรดที่ดีต้องอาศัยปัจจัยอื่น ๆ ด้วย ทำให้การเทรดเพื่อช่วยยืนยันสัญญาณการเข้า ข้อจำกัดทำกำไรจาก Master Candle เทรดเดอร์ท่านใดที่ต้องการเก็งกำไรจากปลายแท่งเทียน Master Candle สามารถต่อยอดสร้างผลกำไรให้กับตัวเองได้ง่ายยิ่งขึ้น หากเรียนรู้ข้อจำกัดที่ควรทราบก่อนการเทรดมีหลัก ๆ ดังนี้ การดูแท่งมาสเตอร์แคนเดิล ที่นำมาใช้ควรเลือก Timeframe(TF) แบบ H4 , Day , Week หรือ Month เท่านั้น หากต้องการ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 16, 2024

Marubozu รูปแบบกราฟแท่งเทียน ที่มีลักษณะตัวแท่งเทียนแต่ไม่มีไส้เทียน ไม่ว่าตัวแท่งเทียนที่พบจะเป็นสีอะไรก็ได้ แต่จุดสูงสุดและจุดต่ำสุด จะเป็นจุดเดียวกับจุดเปิดและปิด โดยเป็นตัวบ่งชี้ถึงแนวโน้มดำเนินไปตามทิศทางของแท่งเทียนและอยู่ช่วงตรงกลางของเทรนด์เพื่อยืนยันราคาว่าราคายังคงไปต่อ ประเภท Marubozu แบ่งได้กี่แบบ เมื่อต้องการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ควรทำความเข้าใจกับ Marubozu แบ่งได้ 2 ประเภท ดังนี้ White ประกอบไปด้วยเทียนสีขาว ลักษณะของแท่งเทียนไม่มีไส้ ซึ่งหมายถึงราคาเปิดปิด จุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเป็นจุดเดียวกัน จึงไม่มีไส้เทียนให้เห็น ลักษณะนี้เป็น Bull Market ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อกำลังควบคุมตลาดหรือเกิดการกลับตัวสู่ภาวะกระทิง Black ประกอบไปด้วยเทียนสีดำ ลักษณะของแท่งเทียนไม่มีไส้ ซึ่งหมายถึงราคาเปิดคือจุดสูงสุดและจุดต่ำสุดเป็นจุดปิด จึงไม่มีไส้เทียนให้เราได้พบลักษณะนี้ เป็นภาวะหมี ที่แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อมีอำนาจเหนือตลาดหรือเกิดการกลับตัวสู่ภาวะหมี รูปแบบ Marubozu ที่ควรรู้จัก ก่อนการเทรดควรทำความรู้จักรูปแบบ Marubozu ที่ควรรู้จักมี ดังนี้ แบบลวดลายไม่มีไส้ตะเกียงที่เทรดเดอร์ส่วนมากมักจะเรียกว่า Marubozu เต็ม แบบที่มีไส้เทียนแบบกระทิงและไส้เทียนแบบหมีคือแบบเปิด Marubozu แบบที่มีไส้เทียนด้านล่างแบบกระทิงและมีไส้เทียนด้านบนแบบกระทิงคือการปิด Marubozu สิ่งสำคัญในการวิเคราะห์รูปแบบของแท่งเทียนคือต้องไม่มีไส้เทียนที่ปลายทั้งสองข้าง ปลายด้านหนึ่งของแท่งเทียนด้านใดด้านหนึ่งจำเป็นต้องแบนเสมอ หากแท่งเทียนยิ่งยาวมากเท่าไหร่นั่นหมายความว่าประสิทธิผลก็จะยิ่งสูงมากยิ่งขึ้นนั่นเอง ลวดลาย Marubozu สีขาว หมายถึงอะไร […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 14, 2024

Hammer รูปแบบกราฟแท่งเทียนที่มีลักษณะแท่งเทียนที่มี Body เล็กแต่มีไส้เทียนด้านล่างมีความยาว ซึ่งเป็นรูปแบบการส่งสัญญาณการเริ่มต้นการชุมนุมขาขึ้นใหม่ กราฟประเภทนี้จะเกิดขึ้นที่ด้านล่างหลังจากแนวโน้มขาลง ถือว่าเป็นแบบคลาสสิก ที่พบได้บ่อยในการเทรด เงื่อนไขสำคัญของกราฟแท่งเทียน Hammer ก่อนการเทรดอย่างจริงจังควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับเงื่อนไขและข้อจำกัดของ Hammer โดยมีรายละเอียด ดังนี้ ตรวจสอบระดับแนวรับของการก่อตัวของค้อนขาขึ้น หรือระดับแนวต้านของค้อนคว่ำ ยังสถานที่ของการก่อตัวของ hanging man และ shooting star ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีช่องว่างเล็ก ๆ ระหว่างรูปแบบและเทียนใกล้เคียง การรอยืนยันการกลับตัวของแนวโน้มไม่เพียงพอ นอกจากนี้ยังมีตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ ช่วยให้การวิเคราะห์มีความเป็นไปได้จริง การตรวจสอบปริมาณการซื้อขายว่ามีมากน้อยเพียงใด ทั้งนี้เพื่อต้องการตรวจสอบความแข็งแกร่ง ของแนวโน้มที่มีอยู่ในช่วงเวลานั้น ความเหมือนของแท่งเทียน Hammer กับ Doji เป็นอย่างไร การเทรดในตลาดเรามักจะพบเห็นกราฟแท่งเทียนหลายรูปแบบ ทำให้ Hammer มีความคล้ายกับ Doji ซึ่งเป็นกราฟแท่งเทียนเบสิก มีรายละเอียด ดังนี้ รูปแบบสัญญาณของทั้งสอง เป็นแบบการกลับตัวของแนวโน้ม ลักษณะเทียนทั้งสองแบบนั้นมีไส้เทียนด้านล่างหรือด้านบนที่ยาว การเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคาหลังจากการก่อตัว แต่ความสำคัญของสีเทียนนั้น ไม่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลง จุดแตกต่างของทั้งสองประเภทนั้นมีเพียงอย่างเดียวคือโดจิไม่มีตัวเทียน ส่วนลักษณะอื่น ๆ นั้นมีความคล้ายกันนั่นเอง รูปแบบอื่น […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 13, 2024

Doji รูปแบบกราฟแท่งเทียน ที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่รู้จักกันดี รูปแบบกราฟที่บอกถึงความลังเลในตลาดขาขึ้นหรือขาลง เป็นรูปแบบการวิเคราะห์ทางเทคนิคเพื่อให้เห็นถึงความเคลื่อนไหวของราคาจะหยุดลง หรือจะพลิกขึ้นมากหรือไม่ ซึ่งเป็นสัญญาณแจ้งเตือนถึงความเป็นไปได้ของราคาในตลาดช่วงเวลาหนึ่ง ทำไมถึงเรียกแท่งเทียน Doji ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Doji ซึ่งเป็นชื่อเรียกมาจากภาษาญี่ปุ่น หมายถึงความผิดพลาดหรือการทำพลาด หากเป็นความหมายในการเทรด forex นั่นหมายถึงการเท่ากันของราคาปิดและราคาเปิดเป็นไปได้ยากที่จะมีราคาเท่ากัน ทำให้ความหมายของแท่งเทียนโดจิ จึงสื่อความหมายถึงความไม่แน่ใจในตลาดการเงิน รูปแบบแท่งเทียนโดจิเป็นรูปแบบที่เกิดขึ้นได้เมื่อราคาเปิดและราคาปิดใกล้เคียงกันมาก หรือเท่ากันซึ่งเป็นตัวแสดงผลที่สะท้อนผ่านตัวแท่งเทียน วิธีดูรูปแบบแท่งเทียน Doji มีกี่ประเภท สำหรับรูปแบบแท่งเทียน Doji มีรูปแบบหลากหลาย ดังนี้ Neutral รูปแบบแท่งเทียนประเภทนี้มักจะพบได้บ่อย หากสังเกตจะพบว่าเราไม่เห็นตัวแท่งเทียนตรงกลาง เพราะไส้เทียนทั้งบนและล่างมีความยาวเกือบเท่ากัน นั่นหมายความว่ามีแนวโน้มทั้งขาขึ้นและขาลงเกิดความสมดุลหรือมีความใกล้เคียงกันมาก แต่เทรดเดอร์ส่วนมากมักจะเข้าใจผิดในรูปแบบ เพราะไม่ได้ให้สัญญาณเฉพาะตัวมันเอง ความเป็นจริงรูปแบบการกลับตัวรูปแบบหนึ่ง Long-legged ประเภทนี้มีลักษณะของไส้เทียนยาวมาก แสดงให้เห็นว่าผู้ซื้อผู้ขายต่างพยายามที่จะควบคุมการเคลื่อนไหวของราคา แต่ผลลัพธ์สุดท้ายก็ไม่มีผู้ใดสามารถชนะได้ จึงเป็นเหมือนสัญญาณเตือนของสัญญาณขาลงหรือสัญญาณขาขึ้น Dragonfly มีลักษณะไส้เทียนด้านล่างยาวแต่ไม่มีไส้เทียนอยู่ด้านบน ซึ่งหมายถึงราคาเปิดปิดและราคาสูงสุดนั่นอยู่ในระดับเดียวกันทำให้ดูแท่งเทียนแล้วเหมือนกับตัวที Gravestone มีลักษณะไส้เทียนด้านล่าวสั้นแต่มีไส้เทียนอยู่ด้านล่างซึ่งมีความเหมือนกับตัว T กลับหัว นั่นหมายความว่า แรงซื้อพยายามดันราคาขึ้นแต่รักษาไว้ไม่ได้ 4 Price รูปแบบนี้ไม่เหมือนกับประเภทอื่นและเกิดขึ้นได้น้อย ส่วนมากจะเกิดขึ้นเมื่อมีปริมาณการซื้อขายในปริมาณต่ำหรือน้อยมากและอยู่ใน TF ที่แคบลง เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 12, 2024

Dark Cloud Cover รูปแบบการอ่านกราฟแท่งเทียนที่เรามักจะพบได้บ่อย โดยมีลักษณะการส่งสัญญาณของตลาดอาจกำลังกลับตัว ประมาณว่าอยู่ดี ๆ กราฟก็ปรับตัวขึ้น ซึ่งเป็นวิธีที่นักลงทุนส่วนใหญ่วิเคราะห์กราฟ เพื่อต้องการ Confirm สัญญาณให้ชัดเจนเสียก่อน อะไรคือกราฟแท่งเทียน Dark Cloud Cover กราฟแท่งเทียน Dark Cloud Cover หนึ่งในรูปแบบกราฟที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่มักจะพบได้บ่อย มีลักษณะรูปแบบของแท่งเทียนที่บอกถึงความไม่แน่นอนหรือมีความผันผวนเปลี่ยนแปลงในช่วงระยะเวลาสั้น การเกิดรูปแบบกราฟแท่งเทียนประเภทนี้มักจะเกิดขึ้นหลังจากการเคลื่อนไหวของราคา มีโอกาสเกิดขึ้นได้ทั้งราคาแน่นอนหรือแนวโน้มขาขึ้น การส่งสัญญาณในแบบนี้มีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดการกลับตัวของแนวโน้ม หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงแนวโน้ม รูปแบบกราฟประเภทนี้ มักจะบอกถึงการกลับตัวแบบหมีเสมือนเป็น Warning ก่อนการกลับตัวของแนวโน้มจากขึ้นเป็นลง สำหรับแท่งเทียนที่ใช้ในการวิเคราะห์รูปแบบกราฟจะแบ่งออกเป็น 2 แท่งเทียน คือ แท่งเทียนแรกจะเป็นเทียนสีเขียวหรือสีขาว ซึ่งหมายถึงราคาขึ้นในวันนัน ส่วนแท่งเทียนที่สองจะเป็นสีแดงหรือดำ หมายถึงราคาเปิดสูงกว่าการปิดของแท่งเทียนในวันนั้น แต่ราคาที่ปิดในวันนั้นจะอยู่ใน Level ครึ่งหนึ่งหรือต่ำกว่าของเทียนในวันก่อน     ไฮไลท์ของกราฟแท่งเทียน Dark Cloud Cover คืออะไร ? การเรียนรู้กราฟแท่งเทียนมีหลายแบบให้เรียนรู้ สำหรับ กราฟแท่งเทียน Dark Cloud Cover […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 9, 2024

Bearish Engulfing รูปแบบกราฟแท่งเทียนประเภทหนึ่ง เทรดเดอร์ส่วนใหญ่ยอมรับและช่วยให้การเทรดมีความแม่นยำสูง จึงเป็น Platform รูปแบบการกลับตัวแบบหมีและมักจะเกิดขึ้นทางด้านบนของแนวโน้มขาขึ้น สำหรับวิธีอ่านกราฟแท่งเทียนไม่ซับซ้อนและให้สัญญาณชัด รู้ไหมว่า Bearish Engulfing คืออะไร ทำความรู้จักรูปแบบกราฟแท่งเทียน Bearish Engulfing และเป็นที่ยอมรับในวงการ การอ่านกราฟไม่ซับซ้อนมากนัก สามารถช่วยให้การวิเคราะห์ทางเทคนิคในตลาด โดยหมายถึงความเปลี่ยนแปลงของราคาและการเคลื่อนไหวในตลาดตามช่วงเวลาที่ Investors จะกำหนดเอาไว้ รูปแบบเทรดแบบนี้ประกอบด้วยแท่งเทียนสองแท่ง โดยแบ่งให้แท่งแรกนั้นเป็นสีเขียว สื่อถึงกำลังขึ้น ส่วนเทียนแท่งที่สองคือสีแดงหมายถึงกำลังลง การวิเคราะห์พิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างแท่งเทียนขาขึ้นและขาลง มีหลักการคำนวณจากระยะห่าง ระยะเวลา ราคา ปริมาณการซื้อขายของแต่ละแท่งเทียนมีหลักการคำนวณจากระยะห่าง ระยะเวลา ราคา ปริมาณการซื้อขายของ รูปแบบการอ่าน Bearish Engulfing มีอะไรบ้าง สำหรับการเทรดให้เห็นผลตลอดการซื้อขาย Bearish Engulfing เปรียบเสมือนตัวช่วยให้การลงทุนมีความปลอดภัยมากขึ้น โดยมีแพทเทิร์นสำคัญ ดังนี้ แท่งเทียนแท่งแรก ถือว่าในส่วนนี้มีความสำคัญไม่น้อยต่อการเทรดและการวิเคราะห์ ซึ่งเป็นแรงซื้อที่สร้างพื้นฐานโดยมีผลต่อแท่งเทียนที่สอง สามารถกินแท่งเทียนแรกได้เปรียบเสมือนการส่ง Signal ว่าแรงขายกำลังดันราคาลง ทั้งนี้ลักษณะของแท่งเทียนแรกมีขนาดใหญ่ กว่าแท่งเทียนที่สอง บ่งชี้ให้เห็นถึงแรงซื้อที่เข้มงวดทำให้ สีของแท่งแรกมีสีเขียวหรือสีอื่นก็ได้ การแสดงการเคลื่อนไหวของราคาเป็นบวกและการซื้อขายเข้มงวด ส่วนตำแหน่งแท่งแรกควรอยู่ในตำแหน่งที่สูงที่สุดของแนวโน้มขาขึ้นหรือมีความใกล้เคียงกันมากสุด รวมถึงแนวรับ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 8, 2024

Timeframe คืออะไร ควรเลือกกรอบเวลาอย่างไรดี สิ่งสำคัญต่อการเทรดที่ช่วยให้การเทรดสำเร็จได้มากน้อย บางครั้งการมองเห็นราคาปรับตัวรุนแรง แต่ในความเป็นจริงราคาไม่ได้ลงเหมือนอย่างที่เราเห็นก็เป็นไปได้ ทางออกที่ดีคือการเลือกดูบางช่วงเวลาตาม Timeframe จะทำให้เราเห็นเหตุการณ์จริงแบบ Realtime ในเวลาขณะนั้นนั่นเอง รู้ไหมว่า Timeframe คืออะไร บางคนยังไม่เข้าใจว่า Timeframe คืออะไร มีความสำคัญต่อการเทรดอย่างไร หากจะให้ตีความหมายตรงตัว Time คือเวลา frame คือ กรอบ หากนำมารวมกันก็คือ กรอบเวลานั่นเอง ซึ่งหมายถึงกรอบเวลาที่มีแท่งเทียนจำนวนมาก และแสดงผลเป็นกราฟ แท่งเทียนที่แสดงข้อมูลให้เห็นอย่างละเอียด ทั้งราคาเปิด ราคาสูงสุด - ต่ำสุด รวมถึงราคาปิด การแสดงราคาในช่วงเวลาหนึ่ง ๆ เท่านั้น คุณสามารถที่จะกำหนดว่าต้องการซื้อขายในช่วงเวลาใดบ้าง สำหรับการเลือกใช้ Program MT4/5 มีหลายช่วงเวลาให้เลือกใช้งาน M1, M5, M15, M30, H1, H4, D1, W/1, MN แต่ละแบบมีความหมายแตกต่างกันออกไปคือ เช่น M = Minute […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 7, 2024

Copy Trading คืออะไร นำไปใช้ในการเทรดได้แบบไหน นักลงทุนสมัครเล่นอาจไม่รู้จัก ในความจริงเปรียบเสมือนแนวทางการเทรดอย่างมืออาชีพ ถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้คุณสามารถทำการซื้อขายได้อย่าง Professional มากขึ้น Copy Trading คืออะไร ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Copy Trading คืออะไร เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ เปรียบเสมือนการคัดลอกการซื้อขาย รูปแบบการเทรดถูกสร้างขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกเทรดเดอร์หน้าใหม่ จึงเหมาะกับผู้ที่ทำงานประจำและไม่มีเวลาศึกษาหรือติดตามตลาด แต่คุณสามารถทำการเทรดซื้อขายได้เช่นเดียวกับมืออาชีพในการเทรดเลยทีเดียว หลักการทำงานของ Copy Trading คือการคัดลอกการเทรดซื้อขาย โดยออกคำสั่งซื้อขายซึ่งเป็นคำสั่งซื้อขาย เช่นเดียวกับ Master ที่คุณได้เลือกเอาไว้ และไม่มีผลกระทบต่อต้นแบบที่คุณเลือกออกคำสั่งซื้อขาย ความนิยมในการคัดลอกการเทรดถูกนำมาใช้เป็นวงกว้างขึ้นในช่วงระยะเวลาไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งเป็นการเทรดที่ทำลายข้อจำกัดการซื้อขายเพื่อคัดลอกซื้อขายตามผู้นำเพิ่มความสะดวกสบายต่อการเทรดและมีความปลอดภัยในการซื้อขาย การคัดลอกเทรดไม่จำเป็นต้องโอนเงินมาให้ต้นแบบการเทรดเพียงเป็นการเทรดเลียนแบบมาสเตอร์เท่านั้น จึงไม่มีผลต่อเงินทุนของผู้ตัดลอกเพียงเทรดตามมืออาชีพช่วยเพิ่มโอกาสทำกำไรให้เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง     ความเสี่ยง Copy Trading คืออะไร หากจะถามถึงความเสี่ยง Copy Trading คืออะไร ถือว่ามีความเสี่ยงเช่นกัน การเทรดตามมาสเตอร์ที่ยังคงทำงานในการซื้อขายที่มีความเสี่ยง เหมือนเช่นการเทรดทั่วไปเพราะยังคงทำงานซื้อขายในตลาด ดังนั้นจึงไม่มีความแน่นนอนอะไร แนะนำว่าควรดูรายละเอียดของมาสเตอร์ให้ครบถ้วนเช่นการเติบโตของกราฟเงินทุนหรือการขาดทุนสูงสุด สิ่งสำคัญของการคัดลอกควรเลือกข้อมูลที่น่าเชื่อถือจากมาสเตอร์จึงจะช่วยลดความเสี่ยงของการเทรดได้เป็นอย่างดี แนวทางการเลือก Copy Trading คืออะไร […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 6, 2024

เทคนิควิเคราะห์ Forex คือความรู้พื้นฐานที่เทรดเดอร์ทุกท่านควรเรียนรู้ การวิเคราะห์ทางเทคนิคและนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อการ Plan ขั้นตอนการเทรดให้ได้ผลลัพธ์สูงสุดไม่ว่าจะเป็นวิธีการตีเส้นไลน์ กราฟแท่งเทียน ดูแนวรับแนวต้าน การใช้เครื่องมือต่าง ๆ มือใหม่หัดเทรดสามารถเข้าใจได้ เทคนิควิเคราะห์ Forex แบ่งได้กี่ประเภท การเทรดให้ประสบผลสำเร็จควรมี เทคนิควิเคราะห์ Forex อย่างถูกวิธี โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ มีดังนี้ รูปแบบกราฟแท่งเทียน จัดว่าเป็นรูปแบบกราฟที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่นิยมใช้กันมากและอ่านง่ายสุด โดยพิจารณายังจุดที่มีแนวรับ-แนวต้าน โดยพิจารณายังราคาเปิด-ปิด ราคาสูงสุด-ต่ำสุดของแท่งเทียนหนึ่งแท่งเท่านั้น ถือว่าเป็นกราฟที่มีความซับซ้อนน้อย รูปแบบกราฟราคา โดยดูองค์ประกอบรวมของชุดแท่งเทียนในช่วงเวลาหนึ่ง เทรดเดอร์สามารถเลือกใช้เทรดไลน์เข้าช่วยใช้เป็นเครื่องมือหลักในการกำหนดรูปแบบได้ ตัวอย่างกราฟแบบ Symmetrical Triangle การใช้ Indicator ซึ่งเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยให้การเทรดสำเร็จได้ง่ายยิ่งขึ้น เทคนิคการเทรดในรูปแบบต่าง ๆ มักจะอ้างอิงค่าเฉลี่ยของราคา ตัวอย่างเช่น Moving Average หรือ เครื่องมืออย่าง RSI     หลักเกณฑ์ขั้นพื้นฐานของ เทคนิควิเคราะห์ Forex เมื่อต้องการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพ  ควรทำความเข้าใจเทคนิควิเคราะห์ Forex เพื่อประโยชน์ในการเทรดและเป็นพื้นฐานสำคัญที่นำมาใช้เป็นองค์ประกบหลักในการเทรดดังนี้ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 2, 2024

Stop Loss จึงเป็นเรื่องสำคัญที่มือใหม่หัดเทรดจำเป็นต้องเรียนรู้จุดตัดขาดทุน ควรทำความเข้าใจการใช้คำสั่งถือว่าเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ จัดว่าเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยปกป้องเงินทุนของคุณในตลาดที่มีความผันผวนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาและยังช่วยเลี่ยงความเสี่ยงที่คาดไม่ถึงได้อีกด้วย Stop Loss คืออะไร ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Stop Loss สิ่งที่เทรดเดอร์ทุกท่านจำเป็นต้องเรียนรู้และทำความเข้าใจให้ดีเพราะมันคือสิ่งสำคัญนั่นคือ จุดตัดการลงทุนหรือจุดตัดการขาดทุน ซึ่งเป็นจุดที่จะหยุดการลงทุนเพื่อไม่ให้เสี่ยงต่อการขาดทุนหรือผลตอบแทนลดน้อยลง ถือว่าเป็นสิ่งแรกที่เทรดเดอร์ทุกคนควรทำความเข้าใจเพื่อเลี่ยงความสูญเสียจากการลงทุน จึงกลายเป็นจำกัดความเสี่ยงการขาดทุนหรือผลตอบแทนลดลง จึงเป็นหน้าที่หลักเพื่อใช้ในการสนับสนุนการซื้อขายให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด จึงกลายเป็นเครื่องมือจัดการความเสี่ยงที่จะช่วยคุณปิดสถานะแบบอัตโนมัติด้วยการออกคำสั่งเอาไว้ล่วงหน้า แม้ว่าคุณจะปิดคอมหรือไม่ได้อยู่ในระบบก็ตาม คำสั่งนี้ยังคงมีผลต่อการซื้อขายอยู่ เปรียบเสมือนเป็นการปกป้องเงินทุนของคุณเอาไว้ไม่ให้เกิดการกระชากอย่างรุนแรง หากตลาดเปลี่ยนแปลงรุนแรงคำสั่งก็ยังคงทำงานอยู่ตามที่คุณกำหนดเอาไว้นั่นเอง     ข้อดีการตั้งค่า Stop Loss เป็น ความสำคัญของการตั้งค่า Stop Loss เพื่อช่วยปกป้องเงินทุนของตนเองจึงมีข้อดีที่คุณไม่ควรพลาดการใช้งานดังนี้ เพื่อช่วยให้คุณสามารถหยุดยั้งปัญหาการขาดทุนอย่างหนักได้เพราะการซื้อขายในอนาคตไม่มีใครทราบได้ว่าจะเป็นอย่างไรนั่นเอง การเทรดแบบไม่คิดหรือไม่มีการวางแผนใด ๆ ย่อมเสี่ยงขาดทุนมากกว่าได้ผลกำไร หากคิดแบบไม่ขาย ไม่ขาดทุน หากใช้ Leverage เกินขนาด ยิ่งเพิ่มปัญหาให้คุณเพราะเสี่ยงที่จะเงินหมดได้ง่าย ๆ การตั้งค่าการใช้งานคือสิ่งที่จำเป็นและเทรดเดอร์ควรวางแผนการเทรดมาแล้วจึงจะทำให้เห็นผลสำเร็จได้ดียิ่งขึ้น สิ่งสำคัญคือการยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้นแบบไม่คาดคิด ช่วยเพิ่มการโฟกัสในการเทรดมากขึ้น เพิ่มความแม่นยำในการเทรดให้กับคุณและช่วยให้คุณสามารถมองเห็นถึงความเหมาะสมในการเลือกช่วงจังหวะการซื้อขาย สามารถทำให้คุณอารมณ์ดีและคุมอารมณ์ได้ดียิ่งขึ้น เพราะไม่ต้องกังวลต่อการเทรดมากนัก หากโดนแจ้งเตือนบ่อย ๆ นั่นหมายถึงให้คุณหยุดพักหรือหยุดเทรดก่อน เพื่อประสิทธิภาพการเทรดตั้งแต่ครั้งแรกเริ่ม สิ่งที่จำเป็นอย่างมากคือการทดสอบสัญญาณการซื้อขายเพื่อควบคุมความเสี่ยงและการรักษาพอร์ตของตนเองให้ไม่แตกไปเสียก่อน ข้อเสียการใช้งาน Stop […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | February 1, 2024

Demand Supply Zone โซนวิเคราะห์กราฟราคาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด โดยเป็นโซนของราคาที่เกิดการซื้อขายมากและเป็นช่วงที่มีแรงซื้อขายค่อนข้างรุนแรง สามารถสร้างผลกำไรก้อนโตให้เราได้อย่างประเมินค่าไม่ได้เมื่อเทรดไปตาม Trend ในตลาดตามช่วงเวลานั้น ๆ Demand Zone+Supply Zone = Demand Supply Zone จริง ๆ แล้ว Demand Supply Zone คือโซนของราคาที่เกิดขึ้นในตลาดจากการซื้อขาย โดยมีความคล้ายกับแนวรับแนวต้าน แต่ Demand และ Supply จะถูกมองเป็นช่วงกรอบราคามากกว่าไม่ได้มองเป็นราคาใดราคาหนึ่งเหมือนกับแนวรับแนวต้าน การเลือกมองเป็นโซนที่จะเกิดการซื้อขายอย่างรุนแรงเพื่อมองหาช่วง Step ในการซื้อขาย โดยแบ่งออกเป็น 2 โซนดังนี้ Demand Zone หมายถึง Zone ที่ราคามาถึงแล้วและมีแรงซื้อเข้ามาเยอะเพื่อให้ราคานั้นขึ้นกลับไป ซึ่งแบ่งออกเป็น 2 ประเภทคือ DBR คือราคาเป็นเทรนด์ขาลงแล้วราคานั้นพักตัวแล้วก็เปลี่ยนเป็นเทรนด์ขาขึ้นในภายหลัง และ RBR คือ ราคาเป็นเทรนด์ขาขึ้นมาก่อน จากนั้นก็พักตัวแล้วเกิดเป็นราคาขึ้นต่อไป Supply Zone หมายถึง Zone ที่ราคามาถึงแล้วและถูกต้านเอาไว้ซึ่งมีแรงขายเข้ามามากเพื่อให้ราคากลับลงไป […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | January 23, 2024

Trading Signals คือ ตัวช่วยอย่างดีในการ เทรด Forex การเข้าจังหวะเทรดได้อย่างถูกต้อง สามารถทำให้นักลงทุนเข้าเทรดได้เลยแม้ไม่มีความรู้หรือประสบการณ์มาก่อน แค่รอสัญญาณและทำตามได้เลย จัดว่าเป็นตัวช่วยเพิ่มความมั่นใจในการซื้อขายที่มีความแม่นยำเกินกว่า 80% Trading Signals คืออะไร แล้วมีกี่ประเภท ทำความรู้จัก Trading Signals คือตัวช่วยอย่างดีที่เทรดเดอร์ส่วนใหญ่เลือกใช้งานกันมาก จึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้การเทรดแต่ละคนประสบความสำเร็จได้โดยง่าย สัญญาณเทรดที่นำเสนอจากเทรดเดอร์ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ เพื่อใช้เป็น Trick ในการเทรดอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงเป็นข้อดีของการเทรดตามสัญญาณได้เลยเท่ากับว่าคุณไม่ต้องทำอะไรเลย แม้ว่าไม่มีประสบการณ์ก็ทำตามสัญญาณเทรดได้เลย ทั้งนี้สัญญาณเทรดแบ่งได้ 2 ประเภทคือ สัญญาณมาจากระบบคอมและสัญญาณที่ได้มาจากคน จึงเป็นแนวทางความสำเร็จที่ช่วยให้การเทรดง่ายกว่าเดิมและเห็นผลสำเร็จได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น 5 ประโยชน์ Trading Signals คืออะไร? การเทรดฟอเร็กซ์ให้เป็นผลกำไรเหมือนกับมืออาชีพที่คนส่วนเลือก Trading Signals คือ ตัวช่วยอย่างดีและมีประโยชน์ที่หลายคนยอมรับ ดังนี้ ช่วยให้การเทรดเป็นสิ่งที่ไม่ยาก สามารถทำให้เทรดเดอร์ทุกคนสามารถเข้ามาในตลาดได้เลย ไม่จำเป็นต้องมีประสบการณ์ ไม่มีความรู้หรือเทคนิคใด ๆ แค่รู้จัดสัญญาณเทรดก็ช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายยิ่งขึ้น เพียงแค่เทรดตามสัญญาณเท่านั้น ช่วยให้การตัดสินใจเทรดแต่ละครั้งง่ายขึ้นกว่าเดิม ตัวช่วยชั้นเยี่ยมเพิ่มความมั่นใจให้กับนักลงทุนทุกคน แม้ว่าจะเป็นมือใหม่หัดเทรดเป็นครั้งแรก ไม่จำเป็นต้องมีความรู้หรือ Skills ขั้นพื้นฐานแต่อย่างใด […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | January 15, 2024

RSI คืออะไร เครื่องมือทางเทคนิคถูกนำมาใช้ในการเทรดให้เห็นผลกำไร การค้นหาความอ่อนหรือแข็งของของหุ้น จึงเป็นตัวช่วยอย่างดี ช่วยให้นักเทรดจับสัญญาณได้ง่ายขึ้น ทำให้แพลตฟอร์มนี้กลายเป็นตัวช่วยอย่างดี ช่วยในการเทรดจับสัญญาณได้ง่ายและเห็นผลกำไรเกิดขึ้นจริงทุกครั้งที่เข้าร่วมเทรด RSI คืออะไร ใช้แล้วแม่นขึ้นจริงไหม? หลายคนสงสัยว่าการเทรดตราสารหรือคู่เงินออนไลน์ บางคนสงสัยว่าโบรกเกอร์ RSI คืออะไร ทำไมถึงได้รับความสนใจอย่างมาก โดยเป็นเครื่องมือที่พัฒนาระบบเพื่อความสะดวกตลอดการใช้ ทั้งนี้ RS มีชื่อย่อว่า RSI ย่อมาจาก Relative Strength Index รวมถึงการดูแรงซื้อขายของสินทรัพย์ในตลาด มีหลักการคำนวนราคาสินทรัพย์ย้อนหลังได้มากถึง 14 วัน จึงสามารถบอกจุดกลับตัวได้ ทำให้การเทรดแต่ละครั้งมีโอกาสจับเงินกำไรได้ไม่นาก ทำให้การซื้อขายแต่ละครั้งเกิดความแม่นยำและจำกัดความเสี่ยงได้เป็นอย่างดี สำหรับ RSI เทรน ที่มีลักษณะค่อนชัดเจนทำให้การอ่านกราฟง่าย ทั้งนี้อินดิเคเตอร์ตัวนี้ยังได้รับสมญานามว่าเป็น Trend is Your Friend จึงเป็นที่รู้กันดีว่าเครื่องมือนี้เป็นที่ชื่นชอบและเหมาะสมต่อการลงทุน ดูง่าย พร้อมใช้งานได้ทันที วิธีการ Divergence RSI คืออะไร เรียนรู้วิธีการดู Divergence RSI คืออะไร สามารถแบ่งออก 4 ประเภทดังนี้ […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | January 8, 2024

Trend Line คือ เส้นแนวโน้มที่ใช้เพื่อบ่งบอกทิศทางของราคาสินทรัพย์ ซึ่งเป็นแนวเส้นที่เทรดเดอร์ได้สร้างขึ้นมาเพื่อต้องการวิเคราะห์เกี่ยวกับทิศทางราคาสินทรัพย์ โดยเป็นวิธีวิเคราะห์อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำมาใช้งานได้จริง ปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ การหาแนวรับ แนวต้าน โดยลากจากจุดสูงสุดไปยังจุดสูงสุด หรือจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุดนั่นเอง ข้อแนะนำในการใช้ Trend Line ก่อนการ เทรดฟอเร็กซ์ อย่างจริงจัง ควรทำความเข้าใจเกี่ยวกับ Trend Line มีส่วนสำคัญในการเทรดให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อทำให้การวิเคราะห์แม่นยำ และเห็นมุมมองเกี่ยวกับแนวโน้มของราคาในช่วงเวลานั้นได้ โดยมีข้อแนะนำการลากเส้น Trend ให้เข้าใจง่ายดังนี้ ควรลากเส้นเชื่อมจุดต่ำสุด แล้วลากไปเชื่อมจุดสูงสุด ซึ่งเป็น Trend ขาขึ้น หากเป็น Trend ขาลงจะต้องลากจากจุดสูงสุดไปยังจุดต่ำสุด การลากเส้นต้องเชื่อมต่อให้ได้ 2-3 จุดขึ้นไป หากเริ่มต้น 2 จุดถือว่าการวิเคราะห์ ยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่ หากได้มากกว่า 3 จุดจะทำให้เห็นภาพของทิศทางได้ชัดเจนมากขึ้น ความนิยมการลากเส้นขนาน คู่กับ Trend ไลน์ จะทำให้ การอ่าน Graph ได้ง่าย แต่บางครั้งไม่จำเป็นต้องลาก เพราะ Graph […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | December 25, 2023

Scalping Forex คือ กลยุทธการซื้อขายหลักทรัพย์ เพื่อเก็งกำไรในรูปแบบหนึ่ง โดยเน้นการ Trade ให้ถี่หลาย ๆ รอบ เพื่อต้องการกำไรเล็กน้อยไปเรื่อย ๆ เทรดเดอร์อาศัยประโยชน์จากความผันผวนในระยะสั้น เพื่อให้ได้กำไรขึ้นมา อาจใช้เครื่องมือหลากหลายเข้ามาช่วย ให้การ Trade ได้ประโยชน์ผลกำไรสูงสุด ซึ่งใช้เวลาในการ Trade แบบระยะสั้นเพื่อหวังผล การเทรดแบบ Scalping Forex เพื่อเก็งกำไร การ Trade แบบ Scalping รูปแบบการ Trade  เป็นส่วนหนึ่งของการเก็งกำไรด้านการเงินภายในระยะเวลาสั้น เช่นแบบนาทีหรือชั่วโมง เทรดเดอร์ทุกคนต้องมีความรู้ ด้านเครื่องมือตัวช่วยต่าง ๆ มีความรู้พื้นฐานด้านการวิเคราะห์เพราะตลอดเวลาการ เทรดฟอเร็กซ์ อาจมีความผันผวนเกิดขึ้นได้ตลอด กลยุทธ์แบบ Scalping ซึ่งเป็นการ Trade ที่เปิดขึ้นมาหลาย ๆ เทรดเพื่อหวังกำไร แต่ผลกำไรที่เกิดขึ้นนี้ จะเป็นกำไรเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งเป็นวิธีที่หลายคนนิยม เพราะเป็นสถานะสัญญาเปิดทิ้งไว้ได้หลายชั่วโมง แต่หวังผลกำไรในช่วงเวลาไม่นาน ทั้งนี้ตลาดฟอเร็กซ์มีสภาพคล่องตัวสูง และผันผวนมากสุด บางคู่สกุลเงินอาจมี pip มากถึง […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | December 20, 2023

Overbought และ Oversold คืออะไร? หมายถึงการซื้อขาย เปรียบเป็น Trading Signals ว่า ช่วงไหนเราควรซื้อหรือขายดีที่สุด การเทรด Forex จึงไม่มีเครื่องมือใดที่จะบ่งบอกได้อย่างแม่นยำที่สุด ทำให้เทรดเดอร์ทุกคน ควรวางจุดตัดขายขาดทุนควบคู่ไปด้วย เพื่อป้องกันความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา แบบไม่คาดคิด เช่น การซื้อขายไม่เป็นไปตามที่เรากำหนดไว้ Overbought คืออะไร? Overbought คือ Trading Signals แสดงให้เห็นว่า ในขณะนี้ราคามีภาวะการซื้อเกิดขึ้นมากเกินไป แต่ก็ยังมีโอกาสที่จะปรับตัวลงได้ในอนาคต Trading Signals การซื้อมากเกินไป (RSI มากกว่า 70) สำหรับราคาที่มีการปรับตัวเพิ่มขึ้นจากการซื้อมาเกิน ส่งผลทำให้หุ้นมีราคาสูงมากขึ้น เมื่อเห็นสัญญาณการซื้อมากนักลงทุน มักจะอาศัยช่วงเวลานี้ในการขายหุ้น เช่นเดียวกัน Trading Signals ว่าหากค่า RSI น้อยกว่า 30 หมายถึงราคาปรับตัวน้อย ซึ่งเป็นหลักในความคิดทำให้เชื่อว่า ต่ำกว่านี้ไม่มีอีกแล้ว Oversold คืออะไร? Oversold คือ Trading Signals ในตลาด Forex […] อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | December 18, 2023

รูปแบบและเทคนิค Forex มีให้เลือกหลายแบบ แต่ละแบบก็เหมาะกับสไตล์การเทรดของแต่ละคน อ่านต่อ

โดย ALPFOREX | June 19, 2023
crossmenu